สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ว่า นายชาห์รุล ยาซิน ลิมโป รมว.เกษตรอินโดนีเซีย กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า หลายภูมิภาคในประเทศแสดงความพร้อม ในการเตรียมที่ดินเพื่อการเกษตร สำหรับการผลิตข้าว

“ผมมั่นใจว่า ถ้าเราสามารถปลูกข้าวในพื้นที่ 500,000 เฮกตาร์ได้สำเร็จ พวกเราจะสามารถควบคุมผลกระทบของเอลนีโญได้เป็นอย่างดี” ชาห์รุล กล่าวเพิ่มในแถลงการณ์ว่า ความมุ่งมั่นร่วมกันจากรัฐบาลท้องถิ่น เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการเตรียมรับมือกับเอลนีโญ

ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย สั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐเตรียมตัวและรับประกันความพร้อมด้านการผลิตข้าว ภายหลังการประชุม เกี่ยวกับการจัดหาข้าวภายในประเทศ

ชาห์รุล กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรอินโดนีเซีย คำนึงถึงผลกระทบเลวร้ายที่สุด ต่อสต๊อกข้าวของอินโดนีเซีย ในช่วงที่เกิดเอลนีโญรุนแรงที่สุด ระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย. นี้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะขาดดุลการผลิตข้าวประมาณ 300,000-1,200,000 ตัน แต่ด้วยการผลิตข้าวเพิ่มเติมอีก 500,000 เฮกตาร์ เขามองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการควบคุมผลกระทบของเอลนีโญ ที่มีต่อคลังอาหารของประเทศ โดยเฉพาะข้าว

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา ชาห์รุล ระบุว่า การผลิตที่เพิ่มขึ้น 500,000 เฮกตาร์ คาดว่าจะทำให้มีผลผลิตธัญพืชแห้งราว 3 ล้านตัน ซึ่งเทียบเท่ากับข้าวประมาณ 1.5 ล้านตัน อีกทั้งยังมีรายงานว่า รัฐบาลจาการ์ตาจะยังมีสต๊อกข้าวอยู่ 2.7 ล้านตัน จนถึงเดือน ก.ย. นี้.

เครดิตภาพ : AFP