เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านของนายปานจันทร์ สินฝาด หรือบังปาน อายุ 52 ปี หมู่ที่ 4 บ้านเกาะเคี่ยม ต.กันตังใต้ อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งมีอาชีพเลี้ยงหอยนางรมในกระชัง และเลี้ยงแมวไว้ทั้งหมด 7 ตัว โดยเฉพาะ “น้องบัว” แมวเพศเมีย สีขาวแต้มน้ำตาล อายุประมาณ 3 ปี ซึ่งเป็นแมวที่ชอบกินหอยนางรมอย่างมาก เมื่อไหร่ที่บังปานนั่งแกะเนื้อหอยเพื่อเตรียมส่งลูกค้า น้องบัวก็จะใช้ขาหน้าคอยสะกิด เพื่อขอกินเนื้อหอยนางรมเป้นประจำ หากไม่ได้กิน น้องบัวก็จะสะกิดจนกว่าจะได้กิน ซึ่งหากสะกิดจนเหนื่อยแล้วยังไม่ได้กิน น้องบัวก็จะแอบขโมยกิน เวลาที่เจ้าของแกะเนื้อหอยใส่จาน ซึ่งบังปานจะแก้ปัญหาน้องบัวขโมยกินหอย ด้วยการยอมให้กินวันละ 2 ตัว สูงสุดคือ 4 ตัว เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว

บังปาน เล่าต่อว่า น้องบัวเริ่มกินหอยนางรมมาตั้งแต่อายุประมาณ 5-6 เดือน จนตอนนี้อายุ 3 ปีแล้ว และหากวันไหนน้องบัวหนีเที่ยวนอกบ้าน บังปานก็ไม่ต้องไปตามหาที่ไหน แค่นั่งแกะหอยเพียงไม่นาที น้องบัวได้กลิ่นหอยก็จะเดินกลับบ้าน ทันที ส่วนอีกตัวคือน้องดาว แมวเพศเมีย อายุประมาณ 3 ปีเท่ากัน ก็ชอบกินหอยนางรม แต่จะกินหอยที่ตัวเล็กกว่าน้องบัว

บังปาน ยังเล่าต่อว่า น้องบัวเป็นหัวโจกในการใช้ขาหน้าเปิด-ปิดประตูหน้าต่าง และประตูบานเลื่อนได้เอง เพื่อเข้าไปขโมยของกินภายในบ้าน ก่อนจะเอาออกมาวางข้างนอก เพื่อให้แมวทุกตัวได้กินพร้อมกัน บังปานจึงต้องล็อกประตูทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน แถมยังสนใจเรื่องของชาวบ้านมาก เพราะเมื่อไหร่ที่ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านทะเลาะกันหรือมีเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย น้องบัวจะกระโดดขึ้นไปยืนเกาะขอบกำแพง แล้วยืดคอยาวเพื่อมองหาที่มาของเสียง จนหายสงสัยแล้วจึงลงกลับมา ทำให้เจ้าของเกิดความรักและหวงแหนเป็นอย่างมาก ซึ่งแมวทุกตัวเป็นลูกแมวที่มีคนนำมาทิ้งไว้ตั้งแต่เล็ก ตนเองไปพบเข้าจึงเกิดความสงสาร และนำมาเลี้ยงไว้จนตอนนี้มีแมวทั้งหมด 7 ตัวแล้ว แต่มี 2 ตัวที่ชอบสะกิดเพื่อขอกินหอยนางรมคือน้องบัว กับน้องดาว

นอกจากนี้ บังปาน ยังเล่าต่ออีกว่า น้องบัวเริ่มหัดกินหอยตั้งแต่ตอนเล็กๆ สังเกตเวลาแกะหอย มันจะมาหาทุกครั้งเลยยื่นให้กิน โดยกินประมาณวันละ 1-2 ตัว สูงสุดคือวันละ 4 ตัว ตัวอื่นไม่ค่อยชอบเหมือนน้องบัว โดยเริ่มขอด้วยการใช้มือล้วงตอนแกะหอย ตนสงสัยจึงยื่นให้กิน ถ้าไม่ให้ก็จะนั่งเฝ้า และถ้าไม่ให้อีกก็จะขโมยกินเองบ่อย ส่วนความพิเศษคือเปิดหรือปิดประตู บานเลื่อนก็เปิดได้เอง.