เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ สภ.เมือง จ.นครราชสีมา นางพิมวรา อายุ 42 ปี พร้อมกลุ่มผู้ปกครองโรงเรียนเอกชน เปิดสอนชั้นปฐมวัยถึงมัธยมตอนปลาย ตั้งอยู่หลังสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับ พ.ต.ท.กฤษณชัย ขันอาสา สารวัตรเวรสอบสวน ระบุเป็นผู้ปกครองนักเรียนหญิงชั้น ม.1 จำนวน 3 คน ถูกนักเรียนหญิงรุ่นพี่ ม.3 รุมทำร้ายร่างกายพร้อมถ่ายคลิปนำไปเผยแพร่กันในกลุ่มรุ่นพี่ เบื้องต้นได้รับคำร้องทุกข์พร้อมเอกสารใบรับรองแพทย์รวมทั้งคลิปเหตุการณ์ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการสอบสวนตามกระบวนการกฎหมาย

ทั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ช่วงเวลาพักกลางวัน เด็กหญิงชมพู เด็กหญิงต้นข้าวและเด็กเทียน (ทั้งหมดนามสมมุติ) นักเรียน ชั้น ม.1 ถูก รุ่นพี่ ม. 3 บังคับให้ตามไปภายในห้องเรียนชั้น ม.2 ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนรุ่นพี่ ม.3 จำนวน 7-8 คน ยืนดูรุ่นพี่ ม.3 จำนวน 3 คน คือ ด.ญ.อิม ด.ญ.สวย และด.ญ.เตย (ทั้งหมดนามสมมุติ) ลงมือรุมทำร้ายร่างกายทีละคน คลิปที่ 1 ความยาว 10 วินาที กลุ่มรุ่นพี่ ม. 3 รุมทำร้ายร่างกายโดยกระชากผม ตบ ตี และเตะ เน้นใบหน้าและศีรษะ พร้อมพูดว่า “มึงอ่ะๆ มึงบอกมาดิ อะไรกับกู ยังไง” 

คลิปที่ 2 ความยาว 6 วินาที รุ่นพี่ ม.3 ยืนคร่อมเด็กหญิง ม.1 มีเสียงของเด็กหญิง ม. 1 พูดว่า “ไม่สู้พี่อิม มันไม่สู้พี่” แต่รุ่นพี่ ม.3 อีกคนได้ใช้เท้าเตะเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง จน นักเรียน ที่ยืนดูอยู่ร้องอุทานว่า “ อู้ว!” ด้วยความตกใจกับการกระทำ

นางพิมวรา แม่ของ ด.ญ.ชมพู ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ลูกสาวไม่อยากไปโรงเรียนและมีอาการซึมเศร้าทุกครั้งที่กลับมาถึงบ้าน หลังเกิดเหตุ เพื่อนลูกสาวได้แจ้งข้อมูลว่า ลูกถูกรุ่นพี่ ม.3 ทำร้ายร่างกาย ต่อมาวันที่ 25 ส.ค.ได้นัดหมายพูดคุยกับผู้ปกครองเด็ก ม.3 คู่กรณี โดยมีครูประจำชั้น ม.1 เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยพูดคุยซึ่งไม่มีผู้บริหารแต่อย่างใด คำตอบจากผู้ปกครอง รุ่นพี่ ม.3 อ้างเป็นเพียงการทะเลาะของนักเรียน ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรและกลุ่มรุ่นพี่พากันปฏิเสธไม่ได้รุมทำร้าย แต่ตบตีคนละครั้ง โดยไม่มีท่าทีสำนึกและพฤติกรรมท้าทายตลอดเวลา เหมือนไม่ได้ทำผิด

ส่วนตนก็คิดว่าน่าจะไม่รุนแรงตามที่บอก ผู้ปกครองกลุ่มรุ่นพี่ ม. 3 บางรายพูดว่า “เพราะลูกปากแบบนี้ สมควรโดนตบ” และท้าทายให้ไปแจ้งความ มิหนำซ้ำยังไม่มีสำนึกหรือขอโทษพร้อมให้ท้ายกันตลอดเวลา กระทั่งช่วงผู้ปกครองน้องเทียนและน้องชมพูได้คลิปเหตุการณ์ที่มีการพยายามลบปิดบัง แต่สามารถเก็บกู้ข้อมูลได้ทันก่อนเมื่อเห็นคลิปเหตุการณ์ขัดแย้งกับข้อมูลของคู่กรณี ทำให้รู้สึกใจสลายไม่พอใจอย่างมาก ไม่มีใครต้องการให้เรื่องนี้เกิดกับลูกตัวเอง เคยเห็นแต่ในข่าวไม่คิดจะเกิดกับลูกสาว พร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นเคสตัวอย่าง ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และไม่อยากให้เกิดกับบุตรหลานคนอื่นด้วย ขณะนี้ได้ยื่นเอกสารลาออกจากโรงเรียน ย้ายไปศึกษาที่โรงเรียนอื่น เพื่อความปลอดภัย

ด้านนางกนกวรรณ อายุ 24 ปี แม่ของ ด.ญ.ต้นข้าว เปิดเผยว่า อ้างรู้จักท่านรอง ตนก็ไม่ทราบรายละเอียด “ท่านรอง” คือใคร คาดแอบอ้างเป็นผู้มีอำนาจมีอิทธิพลมาใช้ข่มขู่ตนไม่ให้เปิดเผยเรื่องราวขอให้ยุติ แต่เหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิป ลูกสาวถูกรุมทำร้ายอย่างทารุณไม่ได้ตอบโต้ เพียงยกมือปัดป้องจุดสำคัญเท่านั้น เนื่องจากบ้านพักอาศัย ห่างกันไม่มากเท่านั้น ทำให้รู้สึกหวาดระแวงอย่างมาก

ด.ญ.ชมพู กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มของตนและกลุ่มรุ่นพี่ ม.3 เคยเป็นเพื่อนกัน ไม่มีปัญหาอะไร คาดสาเหตุมาจากกลุ่มรุ่นพี่ ม.3 เข้าใจผิดตนและเพื่อนอีก 2 คน ใช้อุบายมาตีสนิทกับกลุ่มรุ่นพี่แล้วนำเรื่องไม่ดีภายในกลุ่มไปพูดนินทาอย่างสนุกปากกับกลุ่มรุ่นพี่ ม.2 ฟัง ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลและกล่าวหา ตนและเพื่อนได้ปฏิเสธพร้อมขอโทษ ทั้งๆไม่เคยคิดร้ายหรือด่าทอลับหลังเลย สำหรับตนถูกเตะเข้าที่ใบหน้าจนเสียงดังลั่นส่วนเพื่อนสาวอีกคน 2 คน ถูกเตะ ต่อยหลายครั้ง จน ด.ญ.ต้นข้าว ปัสสาวะราดออกมา

นอกจากนี้หนึ่งในรุ่นพี่ ม.3 ได้ส่งข้อความมาข่มขู่อีกว่า “พ่อแม่-ึงก็ช่วยไม่ได้ค่ะ -ึงคนผิดไม่ใช่-ู ”รวมทั้งข่มขู่ด้วยวาจา “หากเจอหน้าข้างนอกโรงเรียนให้ระวังตัว” “ หากเรื่องนี้หลุด ถูกเผยแพร่ออกไป กลุ่มรุ่นพี่จะตามทำร้ายแบบนี้อีก เพราะเหตุการณ์นี้รู้กันอยู่แค่นี้ ”