เมื่อวันที่ 6 ก.ค. คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร มีมติให้แจ้งความดำเนินคดีกับปกปิดข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 รวม 5 ราย โดย 2 รายแจ้งความเอาผิด เนื่องจากให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคไม่ครบถ้วน เป็นการปกปิดข้อมูล แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ความผิดฝ่าผืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 34 การฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดมุกดาหาร มาตรเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดมุกดาหาร(ฉบับที่ 61) ลงวันที่ 29 มิ.ย. 64

ส่วนอีก 2 ราย เป็นชายอายุ 40 ปีและหญิงอายุ 47 ปี แจ้งความเอาผิดในฐานที่เป็นเจ้าบ้าน ที่ไม่แจ้งข้อมูลอันเป็นจริงต่อ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ คือพนักงานควบคุมโรค ผู้นำชุมชนหรือเจ้าที่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอันเป็นเหตุต้องสงสัยในการปกปิดข้อมูล พนักงาน อันเป็นความผิดฝ่าผืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 31(1)ประกอบ4

รายสุดท้ายเป็นหญิงอายุ 28 ปี ได้ทำการโพสต์ด่าทอเจ้าที่ผ่าเพสบุ๊คส่วนตัวด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งเจ้าที่ได้ทำการแจ้งผิดกฎหมาย มาตรา 328 ความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

ด้านชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอนิคมคำสร้อย กล่าวว่า นางสมบัติ ทองเสริม ได้กลับมาที่บ้านเขตนาอุดม อ.นิคมคำสร้อย เดินทางมาจากเขตดินแดง เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. เมื่อเดินทางมาถึงไม่มาแจ้งไม่มารายงานตัวต่อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อสม. เพื่อกักตัว 14 วัน ต่อมา 7 วัน บุคคลดังกล่าวมีอาการไข้ ไอ ปวดกล้ามเนื้อ หายใจไม่สะดวก จึงมาพบแพทย์ที่ ร.พ.นิคมคำสร้อย แพทย์ได้ตรวจหาเชื้อ พบติดเชื้อโควิด ต่อมาได้ติดต่อหลานในบ้าน และหลานก็เป็นนักเรียนโรงเรียนอุดมวิทย์ ซึ่งปัจจุบันทางราชการก็ได้สั่งปิดโรงเรียนแล้ว

“ในส่วนของเจ้าของบ้านมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ซึ่งมีหน้าที่รายงานคนเข้าออก ไม่ปฎิบัติหน้าที่ปล่อยปละละเลย หลังจากผู้ช่วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกักตัวครอบ 14 วัน ทางอำเภอจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความบกพร่องมีความผิดจริง ก็จะมีคำสั่งลงโทษทางวินัย” นายอำเภอนิคมคำสร้อย กล่าว