จากกรณีที่ น.ส.ฑิตยา บุญพามี อายุ 27 ปี เจ้าของร้านทุเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ว่าถูก “ดาบตำรวจ” นายหนึ่ง อายุ 53 ปี สวมชุดในเครื่องแบบเต็มยศ ใส่รองเท้าคอมแบตถีบเข้าที่ใบหน้า จนจมูกและคางที่ตนไปทำศัลยกรรมมาเคลื่อน และได้รับบาดเจ็บ เหตุเนื่องจาก น.ส.ฑิตยา ไปทวงค่าทุเรียน ที่ดาบตำรวจเคยมาซื้อจำนวน 2 ลูก ในราคา 1,350 บาท เมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค. 66 ที่ผ่านมา จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้นตามที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ร.ต.อ.วีรวิชญ์ ศรีโพนดวน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจราจาไกล่เกลี่ยระหว่าง น.ส.ฑิตยา บุญพา อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย กับ “ดาบตำรวจ” ที่ถูกกล่าวหา
โดยหลังการไกล่เกลี่ย น.ส.ฑิตยา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า คู่กรณีได้เจรจาตกลงจ่ายค่าเสียหายจำนวน 140,000 บาท โดยในวันนี้ ทาง ดาบตำรวจ คนดังกล่าว ได้ยอมรับผิดและกล่าวคำขอโทษ ต่อหน้าตนและพนักงานสอบสวน พร้อมกับยอมจ่ายเงินจำนวน 50,000 บาท เป็นก้อนแรกก่อน เพื่อเป็นเงินค่าทำศัลยกรรมที่ตนได้นัดหมอไว้แล้ว โดยส่วนที่เหลือระบุจ่ายภายในวันที่ 15 ก.ย. อีกจำนวน 90,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ตนเสียหายจากการถูกกระทำ ทั้งค่าซ่อมแก้ไขจมูกและคางที่เคลื่อน อีกทั้งค่าทุเรียนที่ค้างจำหน่ายจำนวนกว่า 500 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 แสนบาท ที่ต้องหยุดพักรักษาตัวจากการถูกทำร้าย
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางตนได้มีการเรียกผู้ก่อเหตุที่เป็นตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตนมาสอบสวน เบื้องต้นก็ยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง จึงให้ไปพูดคุยกันกับคู่กรณี เพื่อไกล่เกลี่ยกันกับผู้เสียหาย ซึ่งอะไรที่เป็นความเสียหาย ก็ให้ทางผู้ก่อเหตุชดใช้ไป
ในส่วนที่มีภาพที่ตำรวจในชุดเครื่องแบบ กระทำความรุนแรงตามภาพวงจรปิดที่ออกไปนั้น ทางตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ต้องขอโทษด้วยและขอรับผิด เนื่องจากตำรวจของเราในขณะนั้นไม่ค่อยมีสติ ไม่ค่อยเรียบร้อย เบื้องต้นทางตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ จะมีการตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ควบคุมความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งตัวผู้ก่อเหตุและตำรวจทุกนาย เพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก.