ทำเอาแฟน ๆ ฮือฮาหนักมาก เมื่อ ซือมู่ หลิว นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง เจ้าของบท “ชางชี” ซูเปอร์ฮีโร่สายเลือดเอเชียแห่งจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) จากภาพยนตร์ “Shang-Chi and The Legend of The Ten Rings (ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์)” อีกทั้งเขายังรับบทหนึ่งใน “เคน” จาก “Barbie” หนังพันล้านในปีนี้ ล่าสุดเจ้าตัวได้ลัดฟ้ามาพักผ่อนที่เมืองไทย พร้อมเช็คอินสถานที่ท่องเที่ยวแบบรัว ๆ นอกจากนี้ ซือมู่ หลิว ยังเป็นหนุ่มกิจกรรมแน่น ตระเวนเที่ยวทั่วไทยทั้งในภาคกลาง ภาคใต้ และภาคเหนือ พร้อมเปิดความรู้สึกประทับใจทีได้มาเยือนที่นี่ งานนี้ “เทรนดี้ ฟรีไทม์” เลยไม่พลาดพาแฟน ๆ ไปตามรอยแหล่งท่องเที่ยวของหนุ่มคนนี้กัน
เอ็นจอยที่ภาคกลาง

ประเดิมที่กรุงเทพฯ โดยเจ้าตัวพร้อมผองเพื่อนไปทัวร์แลนด์มาร์คเมืองหลวงของประเทศไทยรัว ๆ ไม่ว่าจะเป็น “วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร” เขตบางกอกใหญ่ ซึ่งเป็นวัดสำคัญเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และยังเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ที่อยู่ในเขตพระบรมมหาราชวังเดิม โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโทนสีขาว ประดับเครื่องกระเบื้องที่มีลวดลายและสีสันงดงาม



งานนี้ ซือมู่ หลิว ไม่พลาดแชะในรูปจุดเช็คอินยอดฮิต อย่าง “พระปรางค์วัดอรุณฯ” องค์พระปรางก่ออิฐถือปูนสีขาว ออกแบบสลับชั้นสุดวิจิตร ประดับด้วยเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ จานชามเบญจรงค์สีต่าง ๆ ลวดลายดอกไม้และอื่น ๆ รวมทั้งยังตกแต่งด้วยเทพและสัตว์ในป่าหิมพานต์ในวรรณคดี ทั้ง กินนร กินรี ยักษ์ เทวดา และพญาครุฑ ส่วนยอดบนสุดของพระปรางค์ติดตั้งยอดนภศูล โดยตั้งตระหง่านเป็นสง่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีความสูงจากฐานถึงยอดถึง 81.85 เมตร นับเป็นพระปรางค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยและในโลก อีกทั้งยังเป็นโลโก้ของ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)” อีกด้วย จึงเป็นหนึ่งในสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทย ที่ชาวต่างชาติไม่พลาดมาท่องเที่ยว


จากนั้น ซือมู่ หลิว ยังไปกันที่ “ถนนข้าวสาร” อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังของไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยมีอาหารสตรีทฟู้ดอยู่สองข้างทางอันเป็นเอกลักษณ์ แถมถนนสายนี้ยิ่งดึกยิ่งคึกคัก นอกจากนี้ ซือมู่ หลิว ยังไม่พลาดโชว์แผงอกสุดล่ำ พร้อมสวมนวม อวดลีลาเตะต่อยในกีฬาประจำชาติไทยที่ต่างชาติชื่นชอบ อย่าง “มวยไทย” ก่อนที่เจ้าตัวจะลองลิ้มชิมรสทานอาหารไทย ทั้งข้าวขาหมู , ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก และยังนั่งซดต้มเล้งสุดแซ่บ เป็นต้น
งานนี้ ซือมู่ หลิว ได้โพสต์อัปเดภาพไปเที่ยวในกรุงเพทฯ พร้อมข้อความว่า “กรุงเทพฉันรักคุณ! peter and i have been talking about taking this trip for over 10 years. that’s over a decade we’ve been dreaming of night markets and pad thai, krapow and kicking the shit out of each other. long overdue but we finally made it… and it was so much better than we could have imagined. more updates to come” (ผมกับปีเตอร์ได้คุยกันถึงทริปที่จะมาเยือนเมืองไทยกันเป็นสิบปี มันเป็นเวลากว่าทศวรรษที่พวกเราใฝ่ฝันถึงตลาดนัดกลางคืน , ผัดไทย , กระเพรา และเตะเรื่องไร้สาระของกันและกันทิ้งไป มันยาวนานเหลือเกิน แต่ในที่สุดเราก็ทำมันได้สำเร็จ แถมที่นี่ดีกว่าที่เราจินตนาการเอาไว้อีกครับ เดี๋ยวมาอัปเดตเพิ่มนะครับ)
สัมผัสธรรมชาติภาคใต้





ต่อมา ซือมู่ หลิว ได้ตีตั๋วล่องใต้สู่ จ.ภูเก็ต ที่อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เจ้าตัวไปเที่ยวกับเพื่อนซี้วัยเยาว์ ทั้งนั่งชิลรับสายลมริมหาดทรายสวย และยังไม่พลาดดำน้ำดูปะการังและหมู่ปลา ก่อนออกย่ำราตรีชิมของอร่อย ๆ กันที่ตลาดกลางคืน ฟินสุด ๆ
โดยเจ้าตัวได้โพสต์ภาพลงไอจี พร้อมเขียนความประทับใจในการเยือนทะเลใต้เมืองไทยครั้งนี้ว่า “กับเพื่อนสมัยเด็กของฉันในภูเก็ต! this bros’ trip is absolutely gilded thanks to the wonderful hospitality of our guides and the unique vibrancy of the island. thank you phuket for everything!!” (ทริปพี่ชายน้องชายครั้งนี้ต้องขอบคุณการต้อนรับอย่างเป็นมิตรอันสุดแสนพิเศษจากไกด์ของเรา และความมีชีวิตชีวาอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะ ขอบคุณภูเก็ตสำหรับทุก ๆ อย่างนะครับ)
ชื่นชมวัฒนธรรมภาคเหนือ


หลังจากนั้น ซือมู่ หลิว แท็คทีมแก๊งเพื่อน ไปแอ่วเหนือเที่ยว จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าตัวเข้าพักที่โรงแรมหรู โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ พร้อมตะลุยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชม “วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร” พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ปูชนียสถานเก่าแก่ ซึ่งถือเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ครั้งอาณาจักรล้านนาสืบมาจนปัจจุบันกว่า 600 ปี โดยลักษณะทางสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุเจดีย์ เป็นรูปทรงระฆัง สิบสองเหลี่ยม ตั้งอยู่บนฐาน สี่เหลี่ยมย่อเก็จตามแบบศิลปะล้านนา ประดับด้วยการหุ้มทองจังโก ปิดทองเหลืองอร่ามทั้งองค์ งดงามตามแบบฉบับล้านนา

งานนี้ ซือมู่ หลิว ยังได้แชะรูปกับจุดเช็คอินยอดนิยม กับทางขึ้นพระธาตุที่เก่าแก่กว่า 400 ปี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2100 โดยออกแบบเป็นบันไดนาค ก่อนบูรณะใน พ.ศ. 2478 และ พ.ศ 2500 จนปัจจุบันมีบันได 306 ขั้น ลำตัวนาคทอดยาวตามขั้นบันไดขึ้นสู่พระธาตุ เกล็ดพญานาคประดับด้วยเซรามิคสีเหลืองสลับสีเขียวแซมชมพู เชิงบันไดเป็นรูปพญานาค 7 เศียรสุดวิจิตรงดงาม


จากนั้นไปยืดเส้นยืดสายเล่นบาสเก็ตบอลกับชาวแก๊งค์ ที่ “มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” อย่างสนุกสนาน ก่อนสวมเสื้อเชิ้ตและกางเกง “ลายช้าง” ไอเท่มยอดฮิต ที่ชาวต่างชาติหลายคนนิยมสวมใส่เมื่อมาเยือนเมืองไทย พร้อมป้อนอาหารน้องช้าง ที่ปางช้างในจังหวัดอย่างน่าเอ็นดู


นอกจากนี้ ซือมู่ หลิว และเพื่อน ๆ ยังได้ลองใส่ชุดไทยล้านนาไปแชะภาพที่ระลึกกันที่ “ประตูท่าแพ” อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ ชนิดที่ว่าหากใครมาจังหวัดนี้แล้วไม่ไปที่นี่ ก็เหมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่กันเลยทีเดียว สำหรับ “ประตูท่าแพ” เป็นประตูเมืองทางทิศตะวันออกและเป็น 1 ใน 5 ประตูเมืองชั้นในของเวียงเชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นประตูเมืองเพียงแห่งเดียวที่มีบานประตู โดยแต่เดิมเป็นประตู 2 ชั้น วางตำแหน่งเยื้องกัน มีป้อมยื่นออกมาข้างประตูเมือง เพื่อใช้เป็นปราการป้องกันเมืองยามศึกสงครามในอดีต



“ประตูท่าแพ” โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอิฐ สีส้มสะดุดตา ที่ถูกก่อสร้างให้เหมือนกับครั้งอดีตมากที่สุด ซึ่งเทศบาลนครเชียงใหม่และกรมศิลปากรได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยอาศัยหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี สำหรับจุดไฮไลท์ในการถ่ายรูปคือบริเวณป้ายที่เขียนว่า “ประตูท่าแพ” และการแชะรูปกับเจ้านกพิราบ ที่กำลังโบยบิน เรียกว่าเป็นช็อตฮอตฮิตของนักท่องเที่ยว รวมทั้งตามขั้นบันได และรอบตัวกำแพงอิฐ ก็มีมุมถ่ายภาพเก๋ ๆ ไม่แพ้กัน ซึ่งว่ากันว่าหากไปถ่ายรูปที่นี่ในยามเช้าและยามเย็น ยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันด้วย นอกจากนี้ ซือมู่ หลิว ยังได้แวะที่คาเฟ่เมืองเก่าแบบชิค ๆ ก่อนไปตระเวนราตรี เยือนย่านถนนนิมมานเหมินทร์ อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อของเชียงใหม่





ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการสัมผัสวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวล้านนา กับการรับประทานมื้ออาหารสุดพิเศษ “ขันโตกดินเนอร์” ที่ โอลด์ เชียงใหม่ เปิดประสบการณ์การต้อนรับแขก ด้วยสำรับอาหารที่จัดแบบขันโตกของชาวเหนือ พร้อมชมโชว์ “การตีกลองสะบัดไชย” อีกหนึ่งเครื่องดนตรีและศิลปะการแสดงพื้นเมืองอันทรงคุณค่าและมีชื่อเสียงของล้านนา นอกจากนี้เจ้าตัวยังได้ขึ้นฟ้อนรำแบบไทย ๆ ร่วมกับนางรำอีกด้วย แน่นอนว่า ซือมู่ หลิว ไม่พลาดบันทึกความประทับใจผ่านไอจี ระบุว่า “ขอบคุณมาก! chiang mai was such a dream. thank you @fschiangmai for the exquisite hospitality!! truly one of the most beautiful places on earth. (ps i now manage gary the buffalo’s socials dm me for inquiries)” (เชียงใหม่เป็นเหมือนความฝันเลยครับ ผมขอบคุณ @fschiangmai สำหรับการดูแลต้อนรับที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ อีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามที่สุดบนโลกใบนี้อย่างแท้จริงเลยครับ)
เรียกว่าเป็นอีกทริปที่แฮปปี้สุด ๆ ของ “ ซือมู่ หลิว” ที่นอกจากเจ้าตัวจะได้มาพักผ่อน เติมพลัง ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวไทย จนประทับใจสุด ๆ แล้ว การมาเยือนเมืองไทย พร้อมโพสต์การท่องเที่ยวลงโซเชียลแบบรัว ๆ ของนักแสดงระดับฮอลลีวู้ด ยังทำให้ชาวโลกได้เห็นความงดงามของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมทั้งศิลปะวัฒธรรมอันทรงคุณค่าของเมืองไทยด้วย!
ขอบคุณภาพ : IG simuliu , wasin_aunchanum และ Facebook Old Chiangmai , Sitichai Wanapaw