นายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบรนด์) หรือ เน็ตบ้าน มีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตกว่า  8.7% โดยในคาดว่าสิ้นปีนี้ จะมีครัวเรือนในประเทศไทยใช้บรอดแบนด์มากกว่า 13 ล้านครัวเรือน ซึ่งปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการล็อกดาวน์ มีการเวิร์ก ฟรอม โฮม และ เลิร์น ฟรอม โฮม โดยตัวเลขการใช้งานเน็ตบ้านเพิ่มขึ้นถึง 40% ในส่วนของเอไอเอส ก็มีการเติบโตมากกว่าตลาด โดยสิ้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีฐานลูกค้าอยู่ 1.53 ล้านครัวเรือน เติบโต 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว

สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้เอไอเอส ไฟเบอร์ ยังรุกตลาดต่อเนื่อง โดยได้ดึง “เวียร์ ศุกลวัฒน์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยเน้นกลยุทธ์ เซอร์วิส อินโนเวชั่น ที่เน้นการให้บริการแก่ลูกค้า ใน 24 ชม. ทั้ง มาตรฐานการแก้ปัญหาภายใน ให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง มาตรฐานการติดตั้งเร็วเมื่อลูกค้าสมัคร และมาตรฐานช่างนัดตรงต่อเวลา หลังจากที่ได้ทำการสำรวจความต้องงการของลูกค้าแล้วพบว่า การให้บริการที่รวดเร็วมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า นอกเหนือจากเรื่องสปีดความเร็ว และราคาของแพ็กเกจ โดยคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้จะมีฐานลูกค้ามากกว่า 1.6 ล้านครัวเรือนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อช่วงต้นปี และจะขึ้นเป็นผู้นำอันดับที่ 3 ของตลาดเน็ตบ้านในช่วงต้นปี 65 ได้อย่างแน่นอน

กิตติ งามเจตนรมย์

“โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการใช้งานเน็ตบ้านเปลี่ยนไป โดยข้อมูลจากฐานลูกค้าของเอไอเอสพบว่า มีการใช้งานเพิ่มขึ้น 40% แต่ละบ้านมีการใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อมากว่า 10 อุปกรณ์ เนื่องจากการทำงานและเรียนจากที่บ้าน ขณะเดียวกันการใช้งานในด้านความบันเทิงก็เพิ่มชึ้น ทั้งการเล่นดูหนัง เล่นเกมออนไลน์ การใช้งานแอพชอปปิงออนไลน์ โดยแอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยม 5  อันดับแรก คือ เอไอเอสเพลย์ ยูทูบ เน็ตฟลิกซ์ เฟซบุ๊ก และติ๊กต็อก”