เมื่อกลางดึกวันที่ 11 ก.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีกำนันนกว่า คณะชุดสืบสวนสอบสวนพยานทราบว่าเดิม มีพลเรือนบุคคลภายนอก 10 คนมาร่วมงาน ล่าสุดเพิ่มมาอีก 17 คน รวมเป็น 27 คน และมีตำรวจเพิ่มมาอีก 2 นาย จาก 26 เป็น 28 นาย วันนี้การสอบปากคำดำเนินการต่อ ส่วนเรื่องการเปิดเซิร์ฟเวอร์ นั้นอยู่ระหว่างการถอดโดยใช้เวลาคาดว่าในวันพฤหัสบดีนี้ อาจจะกู้ภาพจากเซิร์ฟเวอร์ได้ เพราะไม่ได้รับความเสียหายอะไร โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานสามารถเก็บให้คงสภาพขณะที่เอาไปทิ้ง ฉะนั้นในส่วนของเรื่องคดีการมัดตัวดำเนินคดีกับกำนันนกไม่มีปัญหาที่น่าหนักใจ สิ่งสำคัญคือต้องไล่ความเชื่อมโยงของกำนัน ทั้งเรื่องธุรกิจการรับเหมาก่อสร้าง การทำออนไลน์ จะต้องหาความจริงให้ได้ ถ้าความผิดมูลฐานก็จะดำเนินการมาตรการยึดทรัพย์ ตรวจสอบภาษี ความผิดฐานเลี่ยงภาษีอากรและยึดทรัพย์ร่วมกับ สำนักงานการปราบปรามการฟอกเงิน ขณะนี้พบว่ามีตำรวจทั้งหมด 28 นาย ส่วนพลเรือนอาจมีเพิ่ม วันนี้เราสอบปากคำพยานให้ครบและรอการเปิดเซิร์ฟเวอร์ จะทราบอย่างชัดเจนว่าใครทำอะไร จึงสามารถตั้งข้อหาได้ ขณะนี้ตำรวจยังให้ปากคำที่ไม่เป็นความจริง แต่ชุดพนักงานสอบสวนจากกองปราบปรามจะหาความจริงเอง


ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบว่ามีเลขาฯนายกอบจ.นครปฐม ได้เดินทางมาให้ปากคำ กับพนักงานสอบสวน เพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่มาร่วมงานบ้านกำนันนก และรับบางข้อเท็จจริง ว่ามาร่วมงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องของ อบจ. ในการรับงานนั้น ต้องดูเอกสารควบคู่กัน และประสานสตง. กรมบัญชีกลาง ถึงใครก็ต้องสอบ วันนี้จะไม่เกรงใจใคร จะทำความจริงให้ปรากฏ และทางนายกรัฐมนตรีให้ความเป็นห่วง เน้นการปราบปรามอิทธิพลในทุกพื้นที่ คดีทุกคดีนั้นเราเชิญพยานมาสอบปากคำ ถ้าให้การเท็จก็ต้องโดนดำเนินคดีในเรื่องการแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน หลังจากนี้จะมีหมายจับเพิ่มแน่นอน แต่ต้องรอพยานหลักฐาน แต่ขอให้ตำรวจทำงานก่อน จะไล่ทุกประเด็นที่สังคม มีประเด็นสงสัย ทั้งเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ด้วย


สำหรับ พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม และ พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ที่ถูกย้ายไปประจำ ศปก.ภ.7 ถือเป็นการหย่อนยาน ที่ปล่อยให้กลุ่มมาเฟียและผู้มีอิทธิพล มาทำเรื่องให้เกิดความเสียหาย กลุ่มเหล่านี้ไม่ได้เรียกว่า ผู้มีอิทธิพลแม้กระทั่งปืนยังหาซื้อมาใช้ไม่ได้ ยังต้องให้ตำรวจ ซื้อปืนมาให้ใช้ แต่ตำรวจกลับไปรับใช้เอง ถ้าหากไม่ทำตัวเป็นไม้ค้ำยัน ให้กลุ่มเหล่านี้คงไม่มีเรื่องเสียหายเกิดขึ้น

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยด้วยว่า ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุที่บ้านของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก. 2 บก.ทล. ที่ยิงตัวเองจนเสียชีวิต โดยในที่เกิดเหตุ มีสำนักงานกองพิสูจน์หลักฐาน และนิติเวช มาเก็บเขม่าดินปืนเพื่อทราบผลการตาย ทั้งนี้จะสรุป ว่าการตายเกิดจากอะไร เพราะวันนี้เห็นจากที่เกิดเหตุว่าเป็นการยิงตัวตาย แต่จะไล่กล้องจากที่เกิดเหตุ จะเห็นสภาพของการเสียชีวิตและสิ้นประเด็นสงสัย เรื่องของสาเหตุจากความเครียด ตำรวจทุกคนที่ถูกดำเนินคดีก็ต้องมีความเครียดทุกคน วันนี้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นให้กลับดูแลลูกน้องตนเอง ถ้าหากเกิดความเครียดให้เข้าบำบัดโรงพยาบาลตำรวจ หรือโรงพยาบาลในพื้นที่ เพราะเรามีมาตรการอยู่แล้วสำหรับ

ทั้งนี้กรณีดังกล่าวมีตำรวจเสียชีวิตถึง 2 นาย การตรวจค้นต้องมีแน่ แต่ยังบอกเป้าหมายไม่ได้ ผมจะติดตามทุกคดีในเรื่องนี้ทุกวันเป็นเรื่องการค้นหาหลักฐาน จะทำให้เร็ว รอบคอบ ความจริงจะได้กระจ่าง

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามี ตำรวจระดับ พ.ต.อ. ตำแหน่ง ผกก. ข่มขู่นักข่าวว่าจะถามอะไรมากมาย ระวังกระสุนจะไปถูกเอ็ง เรื่องนี้ พลต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นการข่มขู่ให้แจ้งความดำเนินคดี และให้มาแจ้งกับตนได้เลย.