สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ว่าทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ เมื่อวันอังคาร ว่าสืบเนื่องจากการออกคำสั่ง เมื่อต้นเดือนนี้ หน่วยงานทุกแห่งภายใต้สังกัดของรัฐบาลกลาง ต้องร่วมขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณสุขอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บุคลากรในสังกัดเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายในวันที่ 22 พ.ย.นี้ 

มิเช่นนั้น บุคคลดังกล่าวต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองทุกสัปดาห์ ในกรณีที่มีหลักฐานยืนยัน ว่าไม่สามารถรับวัคซีนได้ ด้วยเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น 
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีคำสั่งเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่ภายในสถานที่ทำงาน และการควบคุมการปฏิบัติงานนอกสถานที่ ให้สอดคล้องกับแนวทางด้านสาธารณสุข 
นอกจากนี้ สถานประกอบการเอกชน ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กจะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล หากอนุญาตให้พนักงานสามารถไปเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยไม่ถือเป็นการขาดงาน หรือหักจากวันหยุดของพนักงาน และเสนอให้โรงเรียนจัดพื้นที่เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนด้วย ขณะที่กระทรวงแรงงานออกแถลงการณ์แยกอีกฉบับ ว่าบริษัทแห่งใดที่ไม่จัดการให้พนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ ต้องชำระค่าปรับเป็นเงินประมาณ 14,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 461,160 บาท ).

เครดิตภาพ : AP