เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้เปิดเผย สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 (มกราคม-มิถุนายน) คนต่างชาติได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในชลบุรีมาเป็นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 43.4 ขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 2 ที่สัดส่วนร้อยละ 37.7 ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ทั้ง 2 จังหวัด มีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 81.1

แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา หรือระหว่างปี 2561-2565 ที่กรุงเทพมหานครมียอดโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 48.8 และ ชลบุรีเป็นอันดับที่ 2 ที่มีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 30.8 โดยในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566  ทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 81.1 และ 85.4 ของทั่วประเทศ ขณะที่ภูเก็ต มีสัดส่วนเป็นอันดับที่ 3 ที่ร้อยละ 6.3

“ผู้ซื้อสัญชาติจีนยังคงเป็นกลุ่มที่มีหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วนร้อยละ 47.0 และ 48.3 ตามลำดับ ส่วนอันดับ 2 เป็นสัญชาติรัสเซีย มีสัดส่วนร้อยละ 9.6 และ 7.3 ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังพบประเด็นที่น่าสนใจว่า ในไตรมาสนี้ สัญชาติเมียนมามีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงสุดที่ 7.0 ล้านบาท ในขณะที่สัญชาติอินเดียมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดขนาดเฉลี่ยใหญ่สุดอยู่ที่ 89.8 ตารางเมตร ”

ภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมที่เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 พบว่ามีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติรวม 7,338 หน่วย มูลค่า 35,211 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวพบว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีน เป็นมูลค่าสูงสุด จำนวน 16,992 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 48.3 ของมูลค่าทั้งหมด ส่วน 4 สัญชาติที่มีมูลค่าการโอนรองลงมาคือ รัสเซีย จำนวน 2,556 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.3 ถัดมา คือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 1,289 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.7 สหราชอาณาจักร จำนวน 1,287 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.7 และเมียนมา จำนวน 1,274 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.6 ตามลำดับพิจารณาลงไปในรายพื้นที่จังหวัดพบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวคนต่างชาติได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในชลบุรีมาเป็นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 43.4 ขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 2 ที่สัดส่วนร้อยละ 37.7 ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ

ทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 81.1 ซึ่งแตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา หรือระหว่างปี 2561-2565 ที่กรุงเทพมหานครมียอดโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 48.8 และ ชลบุรีเป็นอันดับที่ 2 ที่มีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 30.8 โดยในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 ทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 81.1 และ 85.4 ของทั่วประเทศ  

โดยจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ ชลบุรี มีจำนวน 3,183 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43.4 และกรุงเทพฯ จำนวน 2,765 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 37.7 ตามลำดับ

ด้านมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีมูลค่า 20,233 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 57.5 และชลบุรี มีมูลค่า 9,840 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.9 ตามลำดับ

ขนาดและมูลค่าห้องชุดเฉลี่ยต่อหน่วยของสัญชาติที่มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศสูงสุด 10 อันดับ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566

              ที่มา : กรมที่ดิน   รวบรวมและประมวลผลโดย : ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

“จากการประมวลภาพของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั้งหมด ทำให้เราเห็นได้ว่า ปริมาณทั้งในมิติของจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ ฟื้นตัวกลับมาอย่างชัดเจนแล้ว แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงที่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ มีข้อสังเกตต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์เหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนการซื้อขายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า การซื้อขายห้องชุดที่ผ่านมาเป็นการขายได้จริง ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากภาวะการโอนกรรมสิทธิ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง”