ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกเเห่งประเทศไทย เดินทางไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อมและให้กำลังใจนักกรีฑาพาราทีมชาติไทย ทั้งประเภทแขน, ขา และวีลแชร์เรซซิ่ง ซึ่งกำลังฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมไปลุยศึกเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 22-28 ต.ค.66 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน

ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี กล่าวว่า ตอนนี้นักกรีฑาพาราไทย มีความพร้อมอย่างมาก หลังจากที่ได้มีการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจว่าจะสร้างผลงานได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของความสำเร็จ และสถิติที่นักกีฬาจะทำได้ สิ่งสำคัญคือการทำสถิติให้ดีหากทำได้ตามเป้าหมาย เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในเอเชียนพาราเกมส์ 2022 อย่างแน่นอน เพื่อต่อยอดไปสู่เป้าหมายใหญ่ในศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปีหน้า

ขณะที่ สุพรต เพ็งพุ่ม หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวีลแชร์เรซซิ่งไทย เผยว่า ทีมวีลแชร์เรซซิ่งไทย มีความพร้อมเต็มที่แล้ว ที่ผ่านมานักกีฬาได้ออกไปแข่งขันรายการระดับนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกคนมีความมั่นใจเพื่อลงทำศึกรายการนี้อย่างมาก

“ส่วนนักกีฬาหน้าใหม่นั้นก็จะมีนักกีฬาวีลแชร์หญิง ซึ่งครั้งนี้เราหวังจะเป็นรายการที่สร้างเสริมประสบการณ์เพื่อการต่อยอดไปสู่อนาคต เพราะการได้แข่งขันกับนักกีฬาระดับโลกที่มีประสบการณ์สูงก็ทำให้เขามีพัฒนาการที่สูงขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นโอกาสที่ดีที่นักกีฬาหน้าใหม่จะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเต็มที่”

ทางด้าน พนม พุดซา โค้ชทีมกรีฑาพาราไทย เผยว่า เรามีการเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่จบศึกอาเซียนพาราเกมส์ ซึ่งหลายคนมีผลงานที่ดีขึ้น ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นและกระหายที่จะไปแข่งขันในเอเชียนพาราเกมส์ครั้งนี้เต็มที่

“ความหวังของเราคงจะเป็นประเภทลู่ วิ่งระยะสั้น อย่าง 200 ม.หญิง จาก “อุ้ม” ศศิราวรรณ อินทโชติ ซึ่งเพิ่งไปคว้าเหรียญทองแดง “เวิลด์ พารา แอธเลติกส์ แชมเปี้ยนชิพส์” ที่ฝรั่งเศส มาได้ ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น แต่เราก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูง เพราะเราหวังว่าเพียงแค่ให้เขาทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่เท่านั้นเพื่อให้เป็นการกดดันนักกีฬา”

“ส่วนประเภทลาน อยากให้โฟกัสเพียงแค่การทำสถิติของตนเองให้ดี หากทุกคนทำได้แบบที่ฝึกซ้อม เราก็มีโอกาสที่จะคว้าเหรียญรางวัลได้ ซึ่งนักกีฬาทุกคนมุ่งมั่นที่ทำผลงานให้ดีเพื่อคว้าเหรียญรางวัลมาฝากพี่น้องชาวไทยให้ได้ สุดท้ายอยากขอกำลังใจจากคนไทยช่วยเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนด้วยและเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เช่นกัน” โค้ชทีมกรีฑาพาราไทย ย้ำ

สำหรับนักกีฬาพาราไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่ทีมทั้งหมด 491 คน จะลงชิงชัยในเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 รวม 22 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บอคเซีย, เรือแคนู, หมากรุก, จักรยาน, ฟุตบอล 5 คน, หมากล้อม, โกลบอล, ยูโด, ลอนโบวล์ส, ยกน้ำหนัก, เรือพาย, ยิงปืน, วอลเลย์บอลนั่ง, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์ฟันดาบ และวีลแชร์เทนนิส

ทั้งนี้ ในเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทัพพาราไทย ทำผลงานได้ 23 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดง จบการแข่งขันในอับดับ 7.