เมื่อวันที่ 15 ต.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระหว่างวันที่ 26 ก.ย. – 15 ต.ค. 2566 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 35 จังหวัด รวม 145 อำเภอ 554 ตำบล 2,815 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 58,776 ครัวเรือน ปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่ 15 ต.ค. 66 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และยะลา รวม 21 อำเภอ 93 ตำบล 532 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,916 ครัวเรือน แยกเป็น
1.เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.หล่มสัก และอ.เมืองเพชรบูรณ์ รวม 9 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 210 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2.พิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.วังทอง อ.บางระกำ และอ.เมืองพิษณุโลก รวม 11 ตำบล 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 351 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
3.ร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เชียงขวัญ และอ.จังหาร รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 106 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
4.กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ร่องคำ อ.ฆ้องชัย อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.สามชัย อ.ท่าคันโท อ.หนองกุงศรี อ.สหัสขันธ์ และอ.ห้วยเม็ก รวม 59 ตำบล 399 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,152 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5.อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ และอ.สว่างวีระวงศ์ รวม 10 ตำบล 49 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,069 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6.ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่อ.เบตง รวม 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 28 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลงเกือบทุกพื้นที่ ยังคงมีที่จ.กาฬสินธุ์และจ.อุบลราชธานีที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สำนักงาน ปภ. จังหวัด ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถประกอบอาหาร เพื่อแก้ไขปัญหา เร่งระบายน้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป.