วันที่ 18 ต.ค. กรณีเด็กหญิง ป.5 วัย 11 ขวบ แชตไลน์บอกแม่วัย 30 ปี ว่าถูกตาข้างบ้านอายุ 72 ปี ข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ หรือประมาณ 3 ปี ติดต่อกันมา ก่อนที่แม่เด็กจะเดินทางมาจากที่ทำงานที่จังหวัดนครราชสีมา แจ้งความเอาผิดนายล้วน อายุ 72 ปี ชาว อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พร้อมกับเปิดเผยว่า แม่ก็เคยถูกตาคนเดียวกันข่มขืนตอนอายุได้ 9 ขวบเช่นเดียวกัน

พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้เชิญตัวนายล้วน มาสอบสวนที่ สภ.บ้านด่าน แต่นายล้วนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ว่าไม่เคยล่วงละเมิดแม่และเด็กหญิง 9 ขวบ ตามคำบอกเล่าของทั้งสองคน แต่จากพยานหลักฐานและการสอบสวนคู่ไปกับสหวิชาชีพ ตำรวจได้ตั้ง 3 ข้อหา นายล้วน กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นไม่ยินยอม, พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร, พาบุคคลอายุยัง ไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร โดยในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ต่อมาได้มีญาติมาประกันตัวนายล้วน ออกมา เพื่อขอต่อสู้คดี

แต่ล่าสุดตำรวจ สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่า นายล้วน ได้กินยาฆ่าแมลง เสียชีวิตที่บ้านพัก ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแพทย์โรงพยาบาลบ้านด่าน ส่วนเรื่องคดีต้องยุติการสอบสวน เพราะผู้ถูกกล่าวหาเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวสอบถามแม่เด็ก ซึ่งตอนนี้กลับไปทำงานที่จังหวัดนครราชสีมา โดยแม่เด็กเล่าว่า ได้พาลูกมาอยู่ด้วยที่ทำงานแล้ว เพิ่งได้ทราบข่าวว่านายล้วน เสียชีวิต ส่วนตัวคิดว่านายล้วน เสียชีวิตเร็วเกินไป ยังไม่สาสมกับการกระทำที่ผ่านมา ส่วนสภาพจิตใจของลูกสาวดีขึ้น แต่ไม่บอกให้ลูกว่าตาล้วนตายแล้ว