เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะอาคาร B) พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ สอบปากคำ น.ส.รัตนพร อายุ 18 ปี บัญชีม้าแถวที่ 3 นายธีรวัฒน์ อายุ 19 ปี บัญชีม้าแถวที่ 4 น.ส.ณัฎฐนิชา อายุ 39 ปี คนกดเงิน ในขบวนการหลอกขายไอโฟนออนไลน์ให้นักเรียน ม.6 หลังจากจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) ที่จังหวัดเชียงราย พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม โทรศัพท์มือถือ

พล.ต.ต.ชรินทร์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่า มีกลุ่มเยาวชนที่เปิดบัญชีม้าได้ค่าจ้างบัญชีละ 3,000 บาท ส่วนคนกดเงินได้รับการว่าจ้างจากชาวเมียนมาผ่านทางเฟซบุ๊ก ชื่อนายจ๋าย โดยจะให้นำโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอปธนาคาร ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มฝั่งประเทศไทย โดยเป็นการกดแบบไม่ใช้บัตรเอทีเอ็ม แล้วนำไปส่งให้ผู้บงการที่ชายแดนด่านแม่สาย ได้ค่าจ้างกดเงินครั้งละ 300-500 บาท ทำมาแล้ว 1 เดือน โดยแต่ละครั้งจะกดเงินตั้งแต่หลัก 1,000-100,000 บาท ยอดกดล่าสุดที่กดเงินออกไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา 104,000 บาท เชื่อว่ายอดรวมที่กดเงินออกจากบัญชีน่าจะเกือบ 1 ล้านบาท

จากการสอบสวนยังทราบแผนประทุษกรรมว่า เครือข่ายนี้เป็นการขายสินค้าไอทีราคาถูก ซึ่งต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้บงการอยู่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และจะจ้างคนเปิดบัญชีม้าอยู่ในบริเวณชายแดน เพื่อให้ควบคุมได้ง่าย โดยบัญชีม้าแถว 1 จะใช้วิธีเปิดบัญชีออนไลน์ ส่วนบัญชีม้าแถว 2-4 จะใช้เยาวชนในพื้นที่เพื่อที่จะให้ควบคุมได้ง่าย ขณะที่แอดมินเพจที่สนทนาหลอกลวงขายสินค้า เชื่อว่าน่าจะเป็นคนไทยที่เข้าออกชายแดน แต่ไปก่อเหตุหลอกลวงจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีไอพีแอดเดรสอยู่ฝั่งเมียนมา

พล.ต.ต.ชรินทร์ กล่าวว่า ส่วนจะมีผู้บงการอยู่นอกเหนือชาวเมียนมาที่มารับเงินหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานขยายผล โดยยังไม่ตัดประเด็นขบวนการนายทุนจีนเทาอยู่เบื้องหลัง ซึ่งแม้จะเป็นชาวต่างชาติอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องออกหมายจับ และขอออกหมายแดงของตำรวจสากล เพื่อประสานขอความร่วมมือตำรวจเมียนมา ช่วยในการติดตามตัวมาดำเนินคดี

สำหรับขบวนการนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 คน คาดว่าจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาภายในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคมนี้ และส่วนผู้จัดหาบัญชีม้าที่ถูกจับกุม ทราบชื่อ น.ส.วริศรา ได้ส่งตัวดำเนินคดีที่จังหวัดเชียงรายไปแล้ว ความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า ตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ส่วนนางสาวศิริพร ลำปี บัญชีม้าแถว 2 ที่ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ ยังอยู่ระหว่างหลบหนี