สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ว่า ขยะพลาสติก เป็นแหล่งขยะมูลฝอยขนาดใหญ่อันดับ 2 ของฮ่องกง ซึ่งการทิ้งขยะพลาสติกโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,331 ตันต่อวัน ในปี 2564

ทั้งนี้ ฮ่องกงผ่านการแก้ไข “ร่างกฎหมายความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์” ซึ่งกำหนดให้มีการห้ามจำหน่าย และจัดหาผลิตภัณฑ์พลาสติกต่าง ๆ อย่างครอบคลุมทุกกรณี โดยระยะแรกจะมีผลบังคับใช้ ในวันคุ้มครองโลกของปีหน้า หรือวันที่ 22 เม.ย. 2567

รัฐบาลฮ่องกงประกาศว่า ภายใต้กฎหมายใหม่ ร้านอาหารราว 28,000 แห่งทั่วเขตบริหารพิเศษ จะถูกห้ามไม่ให้ใช้ “ภาชนะใส่อาหารที่ทำจากโพลีสไตรีนแบบขยาย (อีเอสพี) และอุปกรณ์รับประทานแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งแบบอื่น ๆ ซึ่งมีขนาดเล็กและรีไซเคิลได้ยาก” สำหรับการรับประทานอาหารที่ร้าน หรือบริการสั่งอาหารกลับบ้าน

ยิ่งไปกว่านั้น กฎหมายดังกล่าวยังห้ามไม่ให้เสิร์ฟซุปในภาชนะพลาสติกเช่นกัน แต่ว่ายังคงอนุญาตให้นำกลับบ้านได้ จนกว่าจะเริ่มต้นการดำเนินการระยะที่ 2 ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อม และความสามารถในการจัดหาภาชนะ และอุปกรณ์ทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่พลาสติก และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

นอกเหนือจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการรับประทานอาหาร กฎหมายใหม่ยังแบนของสมนาคุณที่ทำมาจากพลาสติก ในโรงแรมและสายการบินของฮ่องกง เช่น ขวดน้ำพลาสติก หรือเครื่องอาบน้ำบางอย่าง ตลอดจนแท่งเรืองแสง หมวกปาร์ตี้ และอื่น ๆ ในร้านค้าหลายแห่ง โดยผู้ที่ละเมิดกฎหมายข้างต้น อาจถูกปรับระหว่าง 2,000-100,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 9,300-467,000 บาท)

อย่างไรก็ตาม นายปีเตอร์ คุน สมาชิกสภานิติบัญญัติของฮ่องกง กล่าวในการประชุมว่า เขารู้สึกไม่สบายใจต่อความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้นจากการกำจัดสิ่งของพลาสติกเหล่านี้ รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยว พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการอย่างระมัดระวังมากขึ้น.

เครดิตภาพ : AFP