ในปัจจุบันประเทศไทยมีการกำหนดโครงสร้างราคาจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ โดยประกอบด้วยต้นทุน 3 ส่วน ดังนี้

1. ราคา Pool Gas (เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักราคาและปริมาณ)

  • ก๊าซฯ จากแหล่งในประเทศ รวมอัตราค่าผ่านท่อก๊าซฯ ในทะเล
  • ก๊าซฯ นำเข้าจากประเทศพม่า รวมอัตราค่าผ่านท่อก๊าซฯ เพื่อส่งมาประเทศไทย
  • ก๊าซฯ นำเข้าในรูปแบบ LNG รวมค่าใช้จ่ายนำเข้าและค่าบริการสถานี LNG

2. ค่าบริการในการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ

3. อัตราค่าผ่านท่อก๊าซธรรมชาติบนบก Shipper รายใหม่ต้องไปจองใช้บริการจาก TSO คำนวณเฉพาะค่าผ่านท่อก๊าชฯ บนบก ไม่รวมค่าผ่านท่อในทะเล

นอกจากนี้ การที่ราคาก๊าซธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานั้น มาจากปัจจัยดังนี้

1. อัตราแลกเปลี่ยน หากค่าเงินบาทยิ่งอ่อนจะส่งผลให้ราคาก๊าซฯ สูงขึ้น เนื่องจากราคาซื้อขายจากประเทศพม่าแหล่ง JDA และ LNG ประเทศไทยทำการจัดซื้อโดยจ่ายเป็นสกุลเงิน USD

2. ราคาน้ำมันเตาในตลาดโลก เนื่องจากสูตรราคาซื้อขายก๊าซฯ อ้างอิงราคาน้ำมันเตาบางส่วน โดยน้ำมันเตาถือเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า แต่ราคาก๊าซธรรมชาติจะถูกกว่าเล็กน้อย เพื่อจูงใจให้คนหันมาใช้ก๊าซฯ แทนน้ำมันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งการกำหนดราคาโดยอ้างอิงราคาเชื้อเพลิงทดแทนกันได้นี้เป็นแนวทางมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก

3. การหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติของแหล่งผลิตแบบฉุกเฉิน (ถ้ามี) ทำให้ต้องใช้ LNG มาผลิตไฟฟ้าแทนมากขึ้น

#สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน #สนพ
#เราสร้างสรรค์เพื่อทุกคน #CreateTheFutureEnergy
#กระทรวงพลังงาน #ก๊าซธรรมชาติ