เมื่อวันที่ 22 ต.ค. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ชาวจ.ขอนแก่น ได้พา ด.ญ.บี (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 13 ปี ร้องเรียนกับสื่อมวลชน กรณีลูกสาวถูกนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ใช้อาวุธปืนและมีดจี้พาไปข่มขืนกระทำชำเราถึง 5 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดมีด.ช.อายุ 14 ปี ร่วมด้วย โดยเหตุเกิดที่บ้านนายเอก 3 ครั้ง และที่ห้องน้ำในพื้นที่ศาลเจ้าพ่อหนองกุง 2 ครั้ง ซึ่งแม่ได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.น้ำพอง แล้ว แต่รู้สึกไม่สบายใจเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า และกลัวว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากนายเอกเคยข่มขู่จะฆ่าให้ตายถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร

น.ส.เอ ผู้เป็นแม่กล่าวว่า ที่ผ่านมาเห็นลูกมีอาการซึมเศร้าเก็บตัวจึงได้เค้นถามความจริงเพราะชาวบ้านก็พูดกันว่าเห็นนายเอกบังคับลูกสาวเข้าไปในห้องน้ำศาลเจ้าพ่อหนองกุง หลังทราบรายละเอียดจากลูกสาว จึงเดินทางไปพบกับแม่ของนายเอก แต่ก็ได้รับคำตอบว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย ให้ตำรวจมาจับตัวนายเอกไปเลย และไม่มีแม้แต่คำขอโทษ เมื่อไปหาตำรวจก็บอกว่าทำไมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่คุยกันหรือตกลงกัน ตอนนี้ไม่มีความคืบหน้าทางคดีว่าจะแจ้งข้อหาหรือจะจับกุมตัวคนก่อเหตุเมื่อใด ขณะที่คนก่อเหตุยังลอยนวลพร้อมทั้งมีอาวุธติดตัวอยู่ตลอด จึงมาร้องเรียนสื่อมวลชนให้ช่วยติดตามเรื่องคดีกับทางตำรวจให้ด้วย

ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภน้ำพอง กล่าวว่า ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิง คนถูกกล่าวหาเป็นเยาวชน ส่วนพยานก็เป็นน้องชายของฝ่ายหญิงอายุเพียง 9 ขวบ ตำรวจรับแจ้งความแล้ว แต่การสอบสวนเมื่อผู้เสียหายและคนถูกกล่าวหาเป็นเด็กและเยาวชนทั้งคู่จึงต้องประสานทีมสหวิชาชีพมาร่วมสอบสวน เมื่อสอบสวนเสร็จสิ้นก็รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับเพื่อจับกุมคนก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะคดีแบบนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนตำรวจต้องทำงานให้รอบคอบและชัดเจน จึงจะจับกุมตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีได้