สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ว่า พล.ร.ต.ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ณ เวลานี้ จะเน้นเขตทางเหนือของฉนวนกาซา โดยเฉพาะเมืองกาซาซิตี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุด และพื้นที่ใกล้เคียง จึงขอให้ประชาชนที่ยังไม่อพยพ เคลื่อนย้าย “ตามเส้นทางปลอดภัย” ที่กองทัพอิสราเอลกำหนดไว้ ไปยังภาคใต้ของฉนวนกาซา


ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลประกาศเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ให้ประชาชนมากกว่า 1.1 ล้านคนในภาคเหนือของฉนวนกาซา ต้องอพยพลงไปทางใต้ เดิมทีมีการกำหนด “เส้นตาย 24 ชั่วโมง” แต่ยังคงมีการเปิดเส้นทางปลอดภัยหรือเส้นทางมนุษยธรรมเรื่อยมา ทว่าในเวลาเดียวกัน พื้นที่บางส่วนทางใต้ของฉนวนกาซา ยังคงถูกโจมตีทางอากาศเป็นระยะ


นอกจากนี้ เครื่องบินรบของอิสราเอลโปรยใบปลิวเป็นภาษาอาหรับ เหนือพื้นที่หลายแห่งในฉนวนกาซา ขอความร่วมมือให้ประชาชนแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับตัวประกัน โดยเสนอรางวัลทั้งเงิน ที่อยู่อาศัย และการรับรองความปลอดภัย

กลุ่มควันจากการโจมตีของอิสราเอล ในเขตทางเหนือของฉนวนกาซา 24 ต.ค. 2566


ขณะที่ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ธานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ตรัสอย่างเป็นทางการครั้งแรก เกี่ยวกับสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ว่า “เหล่าพันธมิตรของอิสราเอล” ปล่อยให้มีการยึดครอง ปิดล้อม และการเข่นฆ่าผู้คนตามอำเภอใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถรับได้ และต้องมีการยุติให้เร็วที่สุด


อนึ่ง กาตาร์มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในการทำหน้าที่คนกลางระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส โดยล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับ การเจรจาเพื่ออิสรภาพของตัวประกันอีก 50 คน ซึ่งเผชิญกับ “อุปสรรค” เมื่อกลุ่มฮามาสกำหนดเงื่อนไขกับอิสราเอล ว่าจะมอบอิสรภาพให้แก่ตัวประกันกลุ่มนี้ โดยจะเน้นผู้ถือสองสัญชาติ คืออิสราเอลกับอีกชาติหนึ่ง และชาวต่างชาติ หากอิสราเอลเปิดทางให้มีการส่งเชื้อเพลิงเข้าฉนวนกาซา


อย่างไรก็ตาม อิสราเอลไม่ตกลง และยื่นคำขาดว่า การลำเลียงเชื้อเพลิงเข้าสู่ฉนวนกาซาจะเกิดขึ้นได้อีกครั้ง เมื่อกลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดเท่านั้น.

เครดิตภาพ : AFP