สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ว่า คดีความที่ถูกยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ ในเมืองโอกแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า เมตา ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดหลายครั้ง เกี่ยวกับอันตรายต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มของบริษัท และจงใจชักจูงให้เด็กเล็กและเยาวชน เสพติดการใช้สื่อสังคมออนไลน์

“เมตาใช้เทคโนโลยีที่ทรงพลังและไม่เคยมีมาก่อน เพื่อดึงดูด มีส่วนร่วม และหลอกล่อให้เยาวชนกับวัยรุ่นติดกับ โดยมีแรงจูงใจคือ ผลกำไร” คำร้องเรียนที่ยื่นโดยรัฐ 33 แห่งของสหรัฐ ระบุ

คดีความดังกล่าวระบุเสริมว่า เมตาพยายามทำให้แน่ใจว่า คนหนุ่มสาวจะใช้เวลากับสื่อสังคมออนไลน์ มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งที่บริษัทรู้ว่า สมองของวัยรุ่นมีความอ่อนไหวต่อความต้องการที่จะได้รับความนิยมชมชอบ ในรูปแบบของ “การถูกใจ” จากผู้ใช้งานแพลตฟอร์มคนอื่น เกี่ยวกับคอนเทนต์ของพวกเขา รวมถึงการปฏิเสธต่อสาธารณชนด้วยเจตนาหลอกลวง ว่าสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัทเป็นอันตราย

นอกจากนี้ รายละเอียดคดีความซึ่งยื่นต่อศาลยังเรียกร้องถึง การเยียวยาที่หลากหลาย รวมถึงบทลงโทษทางแพ่งจำนวนมาก อีกทั้งคาดว่ารัฐอีก 9 แห่ง จะดำเนินการยื่นฟ้องในลักษณะเดียวกัน ทำให้จำนวนรัฐที่ฟ้องเมตามี 42 รัฐ จากทั้งหมด 50 รัฐของสหรัฐ

“ประเด็นหลักคือ การที่เมตาใช้ข้อมูลผู้ใช้งานของตัวบุคคล เพื่อรักษาการมีส่วนร่วมสูงสุดของผู้ใช้งานที่เป็นเยาวชน แม้ว่าเมตารวบรวมการวิจัยภายใน เกี่ยวกับการบาดเจ็บ ที่อาจเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทก็ตาม” นายคาร์ล โทเบียส ประธานคณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยริชมอนด์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมตากล่าวยืนยันในแถลงการณ์ว่า บริษัทพยายามสร้างความปลอดภัยทางออนไลน์ให้แก่เยาวชน ขณะที่โฆษกของบริษัท กล่าวเพิ่มเติมว่า เมตารู้สึกผิดหวังที่อัยการสูงสุดในหลายรัฐ ตัดสินใจดำเนินคดีกับบริษัท แทนที่จะทำงานร่วมกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างมาตรฐานที่ชัดเจน และเหมาะสมกับวัย สำหรับแอปพลิเคชันจำนวนมากที่วัยรุ่นใช้งาน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES