จากกรณีที่ อับดุลกอดีรี ฮามิต กองหน้าลูกครึ่งไทย-กานา วัย 22 ปี จากสโมสร “ตะโกกบูรพา” ปราจีนบุรี ซิตี้ โพสต์ร้องว่าถูกผู้ตัดสินเหยียดสีผิว เหตุจากเกมไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออก คู่ ปลวกแดง ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ ปราจีนบุรี ซึ่ง อับดุล ได้โพสต์ว่า โดนผู้ตัดสินพูดจาเหยียดสีผิว ต่อมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ สั่งพักงานผู้ตัดสินคนดังกล่าว และเรื่องจะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของคณะพิจารณาวินัย มารยาท ที่มี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธาน

อ่านข่าว : แข้งลูกครึ่งกานา เป็นห่วงเปาเหยียดผิว โดนสังคมลงโทษจนเสียอาชีพ

สมศักดิ์ ภูสมนึก ผู้ตัดสินนัดดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ “ฟุตบอลสยาม” ระบุว่า ไม่ได้มองว่านักฟุตบอลคนดังกล่าว จะเป็นลูกครึ่งไทย หรือพูดไทยได้ ที่พูดออกไป ไม่ได้จะสื่อถึงการเหยียดผิว หรือ บูลลี่ ตนก็ตัวดำ เป็นคนผิวดำ เมื่อก่อนเล่นฟุตบอลอาชีพ เล่นกับนักเตะผิวสีมามากมาย ชื่อเล่นจริงๆ ชื่อ แฝด แต่คนก็เรียกดำ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาเหยียดอะไรตน ตนเล่นบอลกับนักบอลผิวสี ก็เรียกว่าดำ เพราะยังไม่สนิทกัน แต่พอได้รู้จักกัน ก็เรียกชื่อ คนนั้นก็เข้าใจว่าไม่ได้เหยียด อยากให้ไปถามได้เลยว่า จิตใจตนเป็นคนแบบที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่

เปาสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ที่เรียกแบบนั้น เพราะไม่รู้จักชื่อ และจังหวะที่นักเตะปราจีนบุรี ซิตี้ เจ็บอยู่ ตนได้ไปคุย ไม่ได้ไปบูลลี่หรือเหยียดผิว ถ้าสังคมเข้าใจว่าไปบูลลี่ไปเหยียด ก็ต้องขอโทษที่ทำให้เข้าใจแบบนั้น

เปาสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ตนเป็นอดีตนักฟุตบอล น้องชายดำรงค์ ภูสมนึก เป็นอดีตนักฟุตบอล-นักฟุตซอล ราชนาวี ที่เสียชีวิตไป ก็ตัวดำ ตนก็ตัวดำ ตนมาสอบเป็นผู้ตัดสิน ทุกวันนี้รับราชการ นย. อายุ 45 ปี คนอื่นๆ ก็เรียก “จ่าดำ” ตนก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่มีเรื่องการเหยียดผิวอะไรอยู่ในความคิด