สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่ากระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่าการที่ฮอนดูรัสเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำกรุงเทลอาวีฟให้เดินทางกลับ สะท้อน “ความเพิกเฉย” ของฮอนดูรัส ที่มีต่อ “สิทธิอันชอบธรรม” ของอิสราเอล ในการต่อสู้ “เพื่อป้องกันตัวเอง” จากกลุ่มฮามาส
ทั้งนี้ อิสราเอลหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าฮอนดูรัสจะร่วมประณามการกระทำของกลุ่มฮามาส ซึ่งเข่นฆ่าและลักพาตัวผู้บริสุทธิ์ สนับสนุนสิทธิอันชอบธรรมของอิสราเอล ในการป้องกันตัวเอง และการไม่ดำเนินการในรูปแบบใดก็ตาม ที่จะเป็นการสนับสนุนกิจกรรมก่อการร้ายของกลุ่มฮามาส
Honduras has recalled its ambassador to Israel in condemnation of the “genocide and other serious violations of international law that the civilian Palestinian population is suffering in the Gaza Strip", the Foreign Affairs Ministry said.
— The National (@TheNationalNews) November 4, 2023
Foreign Affairs Minister Eduardo Enrique… pic.twitter.com/FBvwSAI8ho
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของฮอนดูรัสเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังโบลิเวียประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล และเรียกตัวเอกอัครราชทูตให้เดินทางกลับ อนึ่ง โบลิเวียเพิ่งกลับมาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล เมื่อปี 2562 หลังตัดขาดไปนานราว 1 ทศวรรษ ด้วยชนวนเหตุจากการที่กองทัพอิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศชิลี ประกาศการเรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับจากอิสราเอล พร้อมทั้งประณามการที่อิสราเอลละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ปัจจุบัน ชิลีเป็นประเทศซึ่งมีชุมชนชาวปาเลสไตน์ขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้
ด้านรัฐบาลโคลอมเบียเรียกเอกอัครราชทูตของตัวเองกลับจากอิสราเอลเช่นกัน ส่วนบราซิล ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่ประธานหมุนเวียนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) เรียกร้องการหยุดยิงในฉนวนกาซา.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES