สถาบันประมูล เฮนรี อัลดริดจ์ แอนด์ ซัน แห่งอังกฤษ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการจัดประมูลข้าวของจากเรือไททานิค เตรียมจัดประมูลข้าวของหลายชิ้นที่ได้จากครอบครัวของผู้โดยสารเรือไททานิค ซึ่งอับปางลงเมื่อ 111 ปีก่อน ภายในวันเสาร์ที่จะถึงนี้

ในกลุ่มสิ่งของที่จะนำออกประมูล มีอยู่ 2 ชิ้น จัดว่าเป็นของหายาก ซึ่งได้แก่ เมนูอาหารสำหรับผู้โดยสารชั้น 1 และนาฬิกาพกของผู้โดยสารที่เสียชีวิต

สำหรับเมนูอาหารนั้นเป็นของดั้งเดิม แผ่นกระดาษได้รับความเสียหายจากการโดนน้ำ อย่างไรก็ตาม คุณค่าของมันอยู่ที่รายการอาหารที่พิมพ์ไว้บนหน้ากระดาษ และยังคงอ่านได้อย่างชัดเจนว่า เมนูอันเลิศหรูแบบฟูลคอร์สสำหรับผู้โดยสารชั้น 1 ประจำวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 1912 ก่อนหน้าที่เรือไททานิคจะประสบอุบัติเหตุอันน่าเศร้าเพียง 3 วันนั้น ประกอบด้วยอะไรบ้าง

ใบเมนูแผ่นนี้เพิ่งจะมีผู้ค้นพบเมื่อตอนต้นปี โดยครอบครัวของ เลน สตีเวนสัน นักประวัติศาสตร์ชาวแคนาดา ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดโนวาสโกเชียของแคนาดา อันเป็นพื้นที่ที่ฝังร่างของผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมเรือไททานิคล่มเป็นจำนวนมาก

สตีเวนสัน เสียชีวิตในปี 2560 หลังจากนั้น สมบัติส่วนตัวของเขาก็โดนเก็บเข้ากรุไป แต่เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว แมรี อนิตา และ อัลเลน ลูกสาวและลูกเขยของเขา ก็เจอเมนูแผ่นนี้ในสมุดอัลบั้มภายถ่ายจากยุคทศวรรษ 1960 แต่ไม่มีรายละเอียดบ่งบอกว่า สตีเวนสัน ได้เมนูแผ่นนี้มาได้อย่างไร

สถาบันประมูลเฮนรี อัลดริดจ์ฯ ระบุว่า ใบเมนูอาหารของวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1912 อันเป็นวันที่เรือไททานิคล่มนั้น มีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ขณะที่ใบเมนูของวันก่อนหน้านั้น กลับหาได้ยากมาก จึงทำให้เมนูแผ่นนี้เป็นของหายาก

ส่วนนาฬิกาพกซึ่งเป็นของอีกชิ้นที่จะถูกนำออกมาประมูลในครั้งนี้ เป็นสมบัติติดตัวของผู้อพยพชาวรัสเซีย ชื่อว่าซีนาย คันทอร์ วัย 43 ปี ซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์เรือไททานิคล่ม นาฬิกาพกเรือนนี้ถูกพบพร้อมกับศพของเขา

คันทอร์ และภรรยาของเขา กำลังเดินทางไปสหรัฐอเมริกาด้วยเรือไททานิค แต่โชคร้ายที่เขาไปไม่ถึง ขณะที่ภรรยาเขาโชคดีกว่าเพราะเธออยู่ในกลุ่มผู้รอดชีวิต

นาฬิกาพกเรือนนี้ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่โดนน้ำทะเลกัดกร่อนอย่างหนัก แต่ยังคงเห็นตัวอักษรภาษาฮีบรูที่อยู่บนหน้าปัดได้อย่างชัดเจน

สถาบันประมูลเฮนรี อัลดิรดจ์ฯ ประเมินว่า นาฬิกาพกของ คันทอร์ น่าจะผู้เสนอราคาขั้นต่ำที่ 50,000 ปอนด์ (ราว 2.17 ล้านบาท) ส่วนใบเมนูของวันที่ 11 เม.ย. น่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่า 60,000 ปอนด์ (ราว 2.61 ล้านบาท) รวมทั้ง 2 รายการ น่าจะทำเงินได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ปอนด์ หรือไม่น้อยกว่า 4.35 ล้านบาท

ที่มา : cbsnews.com

เครดิตภาพ : Henry Aldridge and Son Ltd.