หลังจากที่ “โจ หลังเท้า” พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย ได้เป็นตัวแทนอดีตนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้มีการตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้จัดการทีมชาติไทย, ผู้ฝึกสอน ทีมตะกร้อทีมชาติไทย ต่อสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ณ ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา

ในประเด็นเรื่องของ “การหักหัวคิว” หรือการหักเงินอัดฉีดของนักกีฬากีฬาตะกร้อทีมชาติไทย ที่ไม่เป็นธรรมนั้น

ก่อนหน้านี้ “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาและภายใต้คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ จะดำเนินการพัฒนาวงการตะกร้อไทยให้ดีที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีเหล่าอดีตนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย หลายคนก็ได้โพสต์ข้อความ ชี้แจงมุมมองส่วนตัวของตนเอง เกี่ยวกับเรื่องของการแบ่งเงินรางวัลนักกีฬาในช่วงที่ติดทีมชาติไทย

ล่าสุด ร้อยตรี นภา แตงโต ทีมผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชายของไทย ชุดเอเชียนเกมส์ 2022 ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง ร่ายยาวแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว

โดยระบุว่า….. ช่วงนี้น่าจะดวงตกจริงๆ กำลังมีคนมาเผาบ้านที่ร่วมกันสร้างมาจากบ้านเช่าที่รอนแรมไปเช่าอาศัยเขาฝึกซ้อมเพื่อความเป็นเลิศ จนกระทั่งสร้างเนื้อสร้างตัวได้ใช้เวลาหลายสิบปี จนวันหนึ่งผู้จัดการทีม ได้บริจาคที่ดินให้สร้างบ้านของเราบนเนื้อที่ 5 ไร่ ที่บ้านเรา มีชื่อว่า มูลนิธิตะกร้อแห่งประเทศไทย

เราไม่ต้องเร่ร่อนรอนแรมหาที่ฝึกซ้อม เงินที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเราที่ช่วยกันหามาจากรุ่นสู่รุ่น มูลค่าที่สร้างไปร้อยกว่าล้านและยังมีเงินเหลืออีกร้อยกว่าล้าน (ต้องรอดูยอดเงินที่เหลืออีกที)

ในยุคก่อนที่ยังไม่มีความเป็นเลิศ ปัญหาการแก่งแย่งกันมาเป็นโค้ช เป็นผู้จัดการทีมกัน วุ่นวายแทงกันไปแทงกันมา

จน นายกจารึก ท่านใช้วิธีการแต่งตั้งผู้จัดการทีม แล้วให้ผู้จัดการทีม หาทีมงานโค้ชที่ทำงานร่วมกันได้แบบไม่ทะเลาะกัน ไม่สร้างความวุ่นวาย ทีมจะได้ประสบความเร็จควบคู่กับการบริหารงานด้านอื่นๆ ของกรรมการบริหาร

จึงมาเป็นทีมงานชุดนี้ยาวนานมายี่สิบกว่าปี และที่อยู่อย่างยาวนานก็เพราะผลงานและความไว้วางใจของท่านนายกสมาคม แต่ก็มีคนอยากมาแทน ที่นะครับก็ใช้วิธีกันต่างๆ นานา มาหลายปีละครับ พวกผมดวงยังแข็งครับ

ส่วนเรื่องเงินเรื่องทองที่เป็นข่าว พวกผมไม่จำเป็นต้องพูดครับ พูดไปคนที่ทัศนคติลบก็ว่าแก้ตัวครับ ความจริงทุกอย่างอยู่ที่ตัวนักกีฬาเองครับ ว่ามีใครบังคับหรือป่าวเขาแบ่งปันด้วยความมีน้ำใจของเขาเองหรือเปล่า

เด็กยุคนี้ไม่ใช่คนใจแคบนะครับ รอติดตามกันไปครับ จริงๆ แล้วทุกเรื่องโค้ชอธิบายได้หมดละครับ ตลอดจนแนวทางการคัดเลือกนักกีฬาทุกคนจะมีแนวทางของตนเองจะให้ใครไปเลือกให้ใครไม่ได้หรอกครับ แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน

ใช้โค้ชอีกคน นักกีฬาก็จะเปลี่ยนไปในแบบที่เขาต้องการ จะให้มาตรงใจเราทั้งหมดคงไม่ได้หรอกครับ

ก็ติดตามดูจุดจบกันต่อไป พวกผมไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งอะไร ถ้าผู้ใหญ่บอกให้เปลี่ยนก็คือเปลี่ยนแค่นั้นครับ ให้ทำงานผมก็ทำตามหน้าที่แค่นั้นครับ ยังมีเรื่องราวอีกเยอะครับเอาไว้แค่นี้ก่อนครับ ขอบคุณทุกกำลังใจครับ

จากนั้น “โค้ชนภา” ยังได้โพสต์เพิ่มเติมว่า ก็มีหลายคนที่อยากรู็ข้อเท็จจริงเรื่องเงินที่คนออกมาร้องเรียน จริงๆ แล้วภายในทีมเราไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ทุกอย่างเป็นการบริหารจัดการภายในทีม ได้มีการประชุมพูดคุยกันอย่างเปิดเผย ทุกคนเห็นดีเห็นงามในสิ่งที่เราทำจึงดำเนินการได้

ที่ว่ามีการโอนเงินจริงมั้ย จริงครับ ก็เขาดำเนินการตามข้อตกลงภายในทีม ไม่ได้มีการขอการขู่บังคับใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ามีการข่มขู่จริง ป่านนี้นักกีฬาออกมากันเต็มแล้วละครับ

เด็กยุคนี้เขามีน้ำใจ เขารู้จักให้รู้จักแบ่งปัน ซึ่งกันและกันครับ การปลูกฝังเรื่องความมีน้ำใจรู้จักให้มันไม่ดีเหรอครับ หรือจะให้สอนให้เห็นแก่ตัว ให้แก่งแย่งกันเพื่อให้ได้เล่นมากกว่าคนอื่น

ที่วุ่นวายเพราะคนนอกครับ เรื่องราวหลักๆ ก็แค่นี้ครับ แต่เรื่องการเมืองที่แอบแฝงมา ผมไม่ขอพูดครับ

“พวกเรายังสบายดีกันทุกคนครับ เด็กๆ พามากินชาบู ปัญหาภายในทีมเราไม่มีนะครับ มีแต่คนภายนอกกำลังสร้างปัญหาให้พวกเรา ขอบคุณทุกกำลังใจครับ สู้กับความอยากของคนนิดหนึ่งครับ” โค้ชแดง โพสต์ส่งท้าย

ขอบคุณภาพจาก…ปิ่นอัคคี เพชรพญาเลี้ยง