สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ว่าประธานาธิบดีอีโมมาลี รัคห์มอน ผู้นำทาจิกิสถาน ประเทศซึ่งมีพรมแดนทางตอนใต้ติดกับอัฟกานิสถาน มีคำสั่งยกระดับมาตรการควบคุมและรักษาความปลอดภัยในบริเวณดังกล่าวเป็นชั้นสูงสุด ที่รวมถึงการระดมทหารกองหนุนรวม 20,000 นาย กระจายกำลังลาดตระเวนในพื้นที่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่กลุ่มตาลีบันใกล้ยึดครองจังหวัดบาดักห์ชาน ที่อยู่ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถานได้เกือบทั้งหมด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอัฟกานิสถาน ทั้งทหารและตำรวจหลั่งไหลหลบหนีข้ามพรมแดนเพื่อขอลี้ภัยเป็นการชั่วคราวในทาจิกิสถาน
“We are now in control of more than 70% of the territories.”
— Al Jazeera English (@AJEnglish) July 5, 2021
The Taliban seize more key districts in Afghanistan, as hundreds of gov't troops flee across the border into Tajikistan. Read more: https://t.co/Z5FNoojgkh pic.twitter.com/9Uhjz3sSgU
ในเวลาเดียวกัน ตุรกีและรัสเซียประกาศปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมาซาร์-อี-ชารีฟ ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดบัลค์ ตั้งอยู่ในเขตทางเหนือของอัฟกานิสถาน และอพยพนักการทูตบางส่วนออกจากพื้นที่ ขณะที่อิหร่าน อินเดีย ทาจิกิสถาน ปากีสถาน และอุซเบกิสถาน ลดระดับการให้บริการของสถานกงสุลในเมืองแห่งนี้เช่นกัน ที่โดยปกติเป็นหนึ่งในพื้นที่ไม่กี่แห่งในอัฟกานิสถาน ซึ่งมีบรรยากาศค่อนข้างสงบ
Video – Images from Bagram Airfield, the biggest US base in Afghanistan, which was evacuated by American forces on Friday.
— TOLOnews (@TOLOnews) July 4, 2021
Officials said that at least 1,000 vehicles were handed over to Afghan forces after US troops left the base. pic.twitter.com/KGYHDf89jy

ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วัน กองทัพสหรัฐส่งมอบฐานทัพอากาศบาแกรม ซึ่งเป็นฐานทัพขนาดใหญ่ที่สุดในอัฟกานิสถาน กลับคืนให้แก่รัฐบาลคาบูล ซึ่งกลุ่มตาลีบัน "แสดงความพึงพอใจ" แต่ยื่นคำขาดว่า หลังวันที่ 11 ก.ย.ปีนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 20 ปี เหตุวินาศกรรม 9/11 ต้องไม่มี "ทหารต่างชาติ" และ "เจ้าหน้าที่พลเรือนด้านความมั่นคงที่เป็นต่างชาติ" ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถานอีกต่อไป.
เครดิตภาพ : AP