เมื่อวันที่ 14 ก.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังมอบนโยบายถึงเหตุการณ์ยิงกันของนักเรียน จนทำให้ครูเสียชีวิต เพราะถูกลูกหลง ว่า ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่ละโรงเรียนต้องมีระเบียบเรื่องการควบคุมดูแลอยู่แล้ว แต่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ต้องออกกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อลดการใช้อาวุธร้ายแรงในการทำร้ายกันระหว่างประชาชน ดังนั้นเมื่อออกกฎออกมาแล้ว แต่ยังกล้าที่จะกระทำผิดกฏหมาย ก็ต้องฝากทางอธิบดีกรมการปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้กวดขันผู้ที่พกพาอาวุธปืนการ ขณะนี้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถพกอาวุธปืนได้แล้ว รวมถึงในช่วงนี้ไม่สามารถต่อใบอนุญาตอาวุธปืนให้กับใครได้ เป็นอันขาด พร้อมย้ำว่า ภายในเดือนกันยายน 67 คนไทยจะพกปืนไม่ได้ ผิดกฏหมาย ต้องเก็บอย่างมิดชิด ไม่สามารถนำไปใช้ในกิจกรรมใดๆ ได้ หากพกแสดงว่าจงใจที่จะทำผิดกฏหมาย จะมีโทษรุนแรง

นอกจากยังนี้ ฝากถึงผู้บริหารโรงเรียน ผู้บริหารสถาบันการศึกษาให้ช่วยกันสอดส่องดูแล พร้อมปลูกจิตสำนึกให้กับนักเรียนนักศึกษาให้มีความสามัคคี โดยจะหารือ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ และเห็นว่ามีหลายหลักสูตรที่ถูกพับเก็บไปแล้ว อาจจะหยิบมาใช้ให้เพื่อปลูกจิตสำนึกและปลูกฝังของคนในชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ขณะที่นายกฯ ได้เดินทางทั่วประเทศ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น ดังนั้น เรื่องนี้ต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และขณะนี้อธิบดีกรมการปกครอง ยืนยันว่าที่อาจจะมีการผ่อนผันบ้างในเรื่องของการนำเข้าอาวุธปืนเพื่อเข้ามาขาย เป็นรุ่นๆ เห็นว่าคงทำไม่ได้แล้ว ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดกับประเทศ คงขายได้เฉพาะหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยของรัฐ ส่วนประชาชนทั่วไป คนทั่วไปพกอาวุธปืนไม่ได้ ต้องมาเริ่มคิดแล้วว่าประเทศไทยต้องเป็นประเทศที่ปลอดอาวุธปืนได้หรือยัง ซึ่งอาจจะขัดใจคนหลาย แต่ในเมื่อไม่รักษากฏหมาย การทำผิดกฎหมายโดยตั้งใจทำไม่ได้ อย่างเช่นในต่างประเทศ เช่น จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนพกพาอาวุธปืน ซึ่งหากใครพกพาอาวุธปืนจะได้รับโทษรุนแรงถึงประหารชีวิต

นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะคนดีและคนไม่ดี คนดีที่พกอาวุธปืนเป็นประโยชน์ในการกีฬา แต่ต้องอาศัยกฎหมายที่เปิดช่อง ทำให้คนไม่ดีสอดแทรกเข้ามาได้ ก็คงต้องเสียสละกันบ้าง และหากีฬาอื่นๆ เพราะว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีมาตรการในการป้องกันการใช้อาวุธปืน ทั้งปืนเถื่อนและไม่เถื่อน ยังไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ดังนั้นจะต้องไม่มีของเหล่านี้ที่จะมาทำร้ายคนได้ จะให้ไปปกป้องธุรกิจ ปกป้องการนำเข้า การใช้อย่างแพร่หลาย แต่พลาดไปคุณครูที่โดนลูกหลง เป็นทั้งหัวหน้าครอบครัว และเป็นครู ต้องมาจบชีวิตด้วยเหตุการณ์ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ จากนี้ไปถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะถือว่าเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง

ส่วนกรณีเด็กและเยาวชนที่พกพาอาวุธปืนหรือก่อเหตุในสาธารณะ นายอนุทิน กล่าวว่า จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด จะอ้างว่าเป็นเด็กไม่ผิดไม่ได้ มิฉะนั้นจะไม่หลาบจำ

ส่วนทีมีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุยิงกัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตคือครูเจี๊ยบ เชื่อมโยงกับข้อพิพาทการย้ายออกจากพื้นทีรกรือไม่ นางสาวศุภมาส รมว.อว. กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงนักเรียนทุกคน ซึ่งมองว่าทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง สถานศึกษา ควรบูรณาการความร่วมมือกัน เริ่มต้นตั้งแต่ใน รร. ในสถาบันการศึกษา และต้องมีการดำเนินกฎหมายอย่างเข้มข้น

ขณะที่ความคืบหน้าการย้ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรสชมงคลอุเทรถวายออกจากจุฬาลงกรณ์ รมว.อว. กล่าวว่า ได้จัดตั้งคณะกรรมงานขับเคลื่อนการยุติข้อพิพาทของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลคะวันออกวิทยาเขตอุทานถวาย (มทร.) โดยมีนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ฝ่ายอุเทนถวาย ครู นิสิตนักศึกษา ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน มทร. สำนักงานคณะกรรมการกฎีกา สำนักงบประมาณ สำนักอัยการสูงสุด รวมถึงฝ่ายมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ คาดว่าจะมีการจัดประชุมหารือได้เร็วๆ นี้ พร้อมยืนยัน จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเป็นปัญหาเรื่องที่ยืดยาวมากกว่า 20 ปี