เมื่อวันที่ 14 พ.ย. น.ส.ยุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ได้พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ลูกสาว เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.(หญิง) มริสา ศรีสุยงค์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้เอาผิดกับอาจารย์ร่างทรงชื่อดัง อายุ 60 ปี เจ้าของตำหนักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวหาว่า ได้กระทำอนาจารภายในรถกระบะ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา

น.ส.เอ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.บี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน โทรฯ มาบอกว่า แม่ของเพื่อนซึ่งเป็นลูกศิษย์ร่างทรงชื่อดัง ให้มาแวะที่สำนัก ตนจึงแวะไปหาเพื่อน พอร่างทรงเห็นได้ทักหนูทันทีว่า ”เป็นตัวกาลกิณี มีผีพลายตาม” พร้อมกับบอกว่าจะแก้ของให้ และให้ไปเอาเสื้อผ้าและวันเดือนปีเกิดของพ่อแม่มาด้วย ตอนแรกคิดว่าน่าจะใช้แค่เสื้อผ้ามาทำพิธีแก้ จึงทำตามที่บอก หลังจากที่ตนกลับไปที่บ้านไม่นาน ร่างทรงก็ขับรถมาจอดหน้าบ้านแล้วบอกตนว่า ”จะพาไปแก้ของ” เวลานั้นยอมรับหวั่นใจ จึงถามเพื่อนว่า ”จะไปจริงๆ เหรอ” ก่อนที่จะขึ้นรถไปกับเพื่อนรวม 3 คน มีตนเอง เพื่อนและร่างทรง

น.ส.เอ เล่าต่อว่า พอขึ้นรถ ร่างทรงถามทันทีว่าเคยมีแฟนไหม เคยอมอวัยวะเพศของแฟนไหม ระหว่างที่ขับรถไป เขาไม่บอกว่าจะพาไปทำอะไร จนกระทั่งได้ขับรถไปที่ตลาดนัดแห่งหนึ่ง ซึ่งวันนั้นไม่มีตลาด กลายเป็นที่เปลี่ยวลับสายตาคน จากนั้นร่างทรงก็ให้ตนนอนคว่ำอยู่เบาะด้านหลัง เพราะเป็นรถ 4 ประตู ก่อนที่จะเปิดเสื้อด้านหลังตนเอง แล้วเอาแผ่นทองมาแปะหลังให้ จากนั้นก็ให้ตนนอนหงายแล้วพยายามดึงเสื้อขึ้น และพยายามกระชากกางเกงตนลง แต่ได้ปัดออกไป ทันใดนั้น ร่างทรงได้กระชากเสื้อชั้นในตนเองขึ้นทั้งหมด ยอมรับว่ากลัวมาก แต่ทำอะไรไม่ถูก เพราะเสื้อถูกเปิดออกทั้งหมด และร่างทรงได้เอาแผ่นทองมาแปะบริเวณหน้าอกทั้งสองข้าง

“จากนั้นร่างทรงพยายามให้ตนนอนตะแคง ส่วนร่างทรงถอดกางเกงออก พยายามจะให้ตนเองอมอวัยวะเพศ แต่ตนไม่ยอมทำตามแล้วรีบลงจากรถทันที ตอนแรกคิดว่ารางทรงจะสำนึก แต่กลับเอาเพื่อนหนูที่นั่งอยู่หน้ารถไปกระทำเช่นเดียวกัน แต่เพื่อนหนูโดนหนักกว่าคือทั้งจับหน้าอกและอวัยวะเพศ จึงดึงเพื่อนหนูลง พร้อมกับชี้หน้าว่า ถ้ามึงจะสาปแช่งอะไรให้สาปเลย แล้วเดินกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนทันที ส่วนร่างทรงได้ขับรถออกไป” น.ส.เอ กล่าว

น.ส.เอ เล่าด้วยอีกว่า หลังจากนั้นเพื่อนตนเองเล่าให้ฟังว่า เคยถูกร่างทรงข่มขืนในรถมาแล้ว 3 ครั้ง พยายามบอกให้แม่ทางไลน์ แต่แม่กลับไม่สนใจ และดุด่าหาว่าแต่งเรื่องและก้าวร้าว ส่วนสาเหตุที่แม่เพื่อนไม่พาลูกไปแจ้งความนั้น เนื่องจากเขานับถือร่างทรงมาก พยายามหาคนมาเข้าสำนักให้ ตอนนี้ได้แต่สงสารเพื่อนที่ไม่มีใครช่วย ส่วนตนเองจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักร่างทรงดังกล่าว แต่ไม่พบ เนื่องจากเจ้าของสำนักไปทอดกฐินที่ต่างจังหวัด พบเพียงลูกศิษย์ โดยเล่าว่า สำนักตั้งมานานกว่า 20 ปีแล้ว มีลูกศิษย์มากมาย ส่วนใหญ่จะมาดูดวง มาเสริมดวง โดยไม่รับเงินจากใคร

รายงานข่าวแจ้งพิ่งเติมว่า สำหรับอาจารย์ร่างทรงคนดังกล่าว เคยถูกกล่าวหาว่าหอบเงินกฐินของวัดที่ ต.สวายจีก กลับไปบ้าน จนมีชาวบ้านออกมาคัดค้าน และเรียกเงินคืน จนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับชาวบ้านมาแล้ว เมื่อเดือน พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา.