เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการไล่ล่า “แป้ง นาโหนด” ในพื้นที่เทือกเขาบรรทัด โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านตระ ท้องที่รอยต่อกันของ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.พัทลุง จ.ตรัง และ จ.สตูล ตลอดทั้ง 15 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐยังคว้าน้ำเหลวในการไล่ล่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐประมาณ 400 นาย ต่างก็ได้ความลำบากจากการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก มีหมอกปกคลุมในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้มีอากาศหนาวเย็น ทางผู้บังคับบัญชาในระดับสูงของ กก.ภ.จว.พัทลุง จึงมีการปรับเปลี่ยนกำลังกันอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นใจการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา

ล่าสุดวันนี้ หลายหน่วย ไม่ว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ชุดแดนไทย 54 ตชด.ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ตชด.43 หน่วยซิงก้า ตชด.44 หน่วยลาซู พร้อมตำรวจ ชุดสืบสวนภูธรพัทลุง ภารกิจวันนี้ ยังอยู่ในที่ตั้ง หลังจากตลอดระยะเวลา 15 วัน หลังปะทะบนยอดเขา เจ้าหน้าที่ได้ล่า ติดตามและเคลียร์พื้นที่ ตามเส้นทางที่หลบหนี จากยอดเขามายังบ้านป่าพงษ์ ในพื้นที่ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ไม่พบแป้ง นาโหนด พบแต่เส้นทางหลบหนี ก่อนร่องรอยหายเมื่อใกล้ถึงพื้นราบแนวป่า ที่ติดต่อกับหมู่บ้านป่าพงษ์ โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ประจำจุดสกัด และเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่า ได้แต่เฝ้ารอตามจุด และฐานต่างๆ เท่านั้น เนื่องจากสภาพร่างกายที่ล้า ประกอบกับเสื้อผ้าที่นำมาใช้ส่วนตัว อย่าง รองเท้า ถุงเท้า เสื้อผ้า เปียกฝน ต้องก่อไฟผิงให้แห้ง และรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง ว่าค้นหาต่อเหลือถอนกำลังกลับ

ขณะที่ชุดไล่ล่า ระบุจากข้อมูลการข่าวของชาวบ้านคาดว่า แป้ง นาโหนด ได้หลบหนีลงจากป่าเขาบรรทัด ในวันที่ปะทะอาจจะเป็นเรื่องจริง เพราะเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาหลังจากเกิดเหตุปะทะ 2 วัน จึงไม่พบผู้ต้องหา แม้จะมีการปิดทุกเส้นทางที่ลงจากเทือกเขา

13วันยังไร้เงา! จัดเฮลิคอปเตอร์บินส่งกำลังเสริมล่า ‘เสี่ยแป้ง นาโหนด’

ด้านนายสิงห์ ชนะสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านป่าพงษ์ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า ตนเองเชื่อว่า แป้ง นาโหนด ได้หนีลงจากเทือกเขาตั้งแต่วันแรก เพราะระยะทางจากจุดปะทะมาถึงบ้านป่าพงษ์ ใช้เวลาเดินเท้าไม่เกิน 3 ชั่วโมง ถึงป่าริมหมู่บ้าน โดยวิสัยของคนถ้าหนีแล้ว ต้องวิ่งหลบหาที่ปลอดภัย ถ้าวิ่งเข้าป่าลึกไป คงไม่ใช่สัญชาตญาณของคน ตนเลยเชื่อเหมือนลูกบ้านว่า แป้งหลบหนีลงมาจากป่าแล้ว แต่จะไปทางไหนนั้น ตนไม่แน่