ยังคงเดินหน้าทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยสำหรับ “นายกฯเศรษฐา” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมเป็นปลื้มกับผลงาน หลังไปทำหน้าที่เป็น “เซลล์แมน” ดึงนักลงทุนในการประชุมเอเปกครั้งที่ 30ที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาสามารถดึง15 บริษัทยักษ์ใหญ่มาลงทุนสำเร็จหลายแสนล้าน พรรคเพื่อไทยถือว่าเป็นผลงานชินโบแดง เตรียมตีปี๊บเป็นผลงานของ “นายกฯเศรษฐา”แถมเล่นเกมรุกเรียกทูตไทยที่อยู่ทั่วโลก-ทูตพาณิชย์กลับประเทศ ประชุมจัดทัพต่อยอดกาค้าการลงทุน เดินหน้าเข้าเกียร์ 5 เสริมทัพให้เพียงพอ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทย

ขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยควง สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค ประเดิมลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.น่าน พบปะสมาชิกพรรคเพื่อไทย หลังขึ้นถือธงนำทัพสร้างฐานเสียงให้แน่นปึก ปูพรมงาน “ซอฟต์เพาเวอร์” หาจุดขาย สร้างรายได้ให้เมืองรอง ดึงนักท่องเที่ยว สร้างตลาดยกระดับชุมชน

การทำหน้าที่ของทั้ง”นายกฯเศรษฐาและอุ๊งอิ๊ง” เป็นไปตามเกม “ทักษิณ ชินวัตร” ที่วางไว้แยกกันทำหน้าที่ เร่งปั่นผลงานสร้างศรัทธา โดย “อุ๊งอิ๊ง” ทำงานการเมืองกระชับพื้นที่ดูแลสส.ขณะที่ “นายกฯเศรษฐา” ทำงานภาพใหญ่บริหารประเทศให้เดินหน้า

แต่ยังไม่ทันไรก็ต้องมาเจอกับปัญหา “ปากไวพูดไม่คิด” ที่แก้ไม่หายของ “นายกฯเศรษฐา” เองทำงานเข้าพรรคเพื่อไทยและตัวเอง หลังหลุดปากในกลางวงประชุมสส.เพื่อไทย ถึงการโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับการกับเวิอด์ดิง ที่ว่า “ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวัง มากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกว่าเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง”

แม้จะมาชี้แจงภายหลังก็ว่าไม่มีอำนาจในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะพิจารณาตามผลงานไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย ซึ่งก็ไม่ทันแล้ว เพราะได้กลายไวรัล เป็นประเด็นร้อน เปิดช่องปลุกให้ฝ่ายค้านดาหน้าออกมาถล่ม กางกฎหมายวางเกมจ่อเอาผิด โดยเฉพาะ“พล...เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาไล่ “นายกฯเศรษฐา”แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะคำที่พูดไปนั้นเปรียบเสมือนใบเสร็จรับเงินที่ออกให้ประชาชนไปแล้ว

แถมเย้ย “นายกฯเศรษฐา”อ่อนหัดอ่านรัฐธรรมนูญยังไม่จบ โดยเฉพาะมาตรา 186 วรรคสอง รัฐมนตรีต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการใดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่นหรือของพรรคการเมืองโดยมิชอบ ตามที่กำหนดในมาตรฐานทางจริยธรรม

ขณะที่พรรคก้าวไกลก็ไม่พลาด เจ้าพ่อตั๋วช้าง รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศออกมาจัดหนักทันที ว่า สิ่งที่“นายกฯเศรษฐา” พูดออกมาเป็นเรื่องที่ผิดทั้งรัฐธรรมนูญ ผิดจริยธรรมนักการเมือง และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ เรื่องนี้ต้องตรวจสอบกันอย่างแน่นอน “นายกฯ เศรษฐา” อย่าได้หนีการตรวจสอบ และเอาความจริงมาพูดว่า ตกลงฝากใครไปบ้าง ผู้กำกับคนไหนได้ตั๋วสร.1 หรือตั๋วนายกฯ หรือตั๋วเพื่อไทย จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้นิ่งเงียบเด็ดขาด ในวันที่ 7 ธ.ค. กมธ. ตำรวจเรียก “นายกฯเศรษฐา”ให้มาตอบข้อซักถาม

ตามด้วย “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลออกมาขย่มซ้ำวางเกมยาวจองกฐิน “ตั๋วเพื่อไทย” เตรียมทำบัญชี ตำรวจระดับผกก.ใหม่ ใครสมหวัง-ใครแห้ว แล้วโยงสายสัมพันธ์กับใคร จะหาตัวการ ‘สส.เพื่อไทย’คนไหนใครเป็นคนฝาก เปิดสภามาเจอตั้งกระทู้ซักแน่ “นายกฯเศรษฐา” ต้องตอบสังคมให้ชัดเจนว่าสส.ที่พูดถึงนั้นมีใครบ้างเพราะเป็นความผิดตามมาตรา185 ของรัฐธรรมนูญที่ชัดเจนมาก

ดูฝ่ายค้านเดินหน้ารุกหนักคงได้แค่เพียงกระตุกแต้มเกมศรัทธาให้ล่วงลงมาบ้าง แต่จะไปล้มรัฐบาลด้วยเรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเอาผิด โอกาสที่ “นายกฯเศรษฐา” พลิ้วก็มีสูง

งานนี้ .สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.ออกมาชี้ช่องให้พวกนักร้องไปยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบได้ โดยส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด และส่งให้อัยการสูงสุด เพื่อส่งสำนวนต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ถ้าศาลรับฟ้อง “นายกฯเศรษฐา” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และหากศาลชี้ว่าเป็นความผิดต้องพ้นจากตำแหน่งถูกเพิกถอนสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต และอาจจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี

เรื่องนี้ก็คงเป็นได้แค่พิธีกรรมทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ขนาดตั๋วช้างที่ “รังสิมันต์ โรม”งัดขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจสมัยรัฐบาล“บิ๊กตู่” พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังทำอะไรไม่ได้ ก็ยังคงเป็นประเด็นที่ผุดขึ้นมาหลอกหลอนสังคมไทยอยู่ร่ำไปในช่วงฤดูกาลโยกย้าย ที่ยังคงทำกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ไม่ว่าจะกี่รัฐบาล รัฐบาลเก่าไป รัฐบาลใหม่มา ก็ยังคงติดอยู่กับระบบอุปถัมภ์ของสังคมไทยที่มีการวิ่งเต้นให้ได้ตำแหน่งอยู่ดี

แต่ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะอยู่กันไปได้ง่ายๆ เพราะเวลานี้ก็เหมือนกับเป็นลิงแก้แห โดยเฉพาะประเด็น เงินดิจิทัลวอลเล็ต 1หมื่นบาท รัฐบาลกำลังออกลีลา ยื้อให้สุดทาง ล่าสุดโป๊ะแตกที่ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) ออก มาโวยว่าถูกทัวร์ลงเละทำงานช้า จากกรณีที่รัฐบาลออกมาบอกว่า พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านส่งให้กฤษฎีกาพิจารณาแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ถึงมือเลย พร้อมย้ำกฤษฎีกาไม่มีหน้าที่ชี้ช่องให้เดิน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจ ตอบแทนรัฐบาลไม่ได้ว่าวิกฤติหรือไม่รอดูข้อมูลอยู่

ขณะที่รมช.คลัง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ก็มายอมรับยังไม่ได้ส่งให้กฤษฎีกา อย่างนี้ไม่เรียกว่ายื้อจะให้เข้าใจว่าอย่างไร ทำไมถึงยังไม่ส่ง ทิ้งเวลามาเนินนานเป็น 2-3 สัปดาห์ยังไม่ส่ง

ทำให้นึกถึงคำพูดของ“ไหม”ศิริกัญญา ตันสกุล แกนนำพรรคก้าวไกล ออกมาดักคอไว้ ว่า ดิจิทัลวอลเล็ตของ“รัฐบาลเศรษฐา” ถึงทางตันแล้วกำลงหาทางลง โดยโยนเผือนร้อนไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา พร้อมขอแรงกฤษฎีกาช่วยทำแท้งพ.ร.บ.เงินกู้นี้ก่อนเลย

เรื่องนี้ต้องอธิบายและพูดความจริงให้ประชาชนเข้าใจไม่เช่นนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนของรัฐบาล ทำงานบริหารประเทศลำบากขึ้นและทางเดินของพรรคเพื่อไทยที่จะไปต่อต้องเหนื่อยขึ้นไปอีก เพราะเสียรางวัดจากการตระบัดสัตย์ไม่รักษาคำพูด

ไม่ใช่จะเลือกเล่นแต่เกมเปิดประเด็นใหม่กรุ๊ปประเด็นเก่า ตามลีลา ของ“นายกฯเศรษฐา” ออกอาการขึงขังเกรียวกราดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานไม่ได้ใจ กับเรื่องการปราบปรามหมูเถื่อน หุ้นมอร์ และหุ้นสตาร์ค โดยเฉพาะ ดีเอสไอ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ถูกนายกฯขีดเส้นต้องจัดการจับตัวการระดับบิ๊กๆ ที่กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ และให้มีความคืบหน้าภายในกลางสัปดาห์หน้า ล่าสุดนายกฯออกมาปูด ว่า มีเรื่องยางพาราเถื่อนเข้ามาในประเทศ ที่ต้องเร่งจัดการด้วย

นอกจากนี้ปักหมุดเดินหน้าตีปี๊บฮีลใจข้าราชการด้วยการขึ้นเงินเดิน ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกันก็จะมีการแถลงใหญ่ถึงการแก้หนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ โดยวันที่ 28 พ.ย.จะแถลงนี้นอกระบบ และวันที่ 12 ธ.ค.จะแถลงแก้นี้ในระบบ ซึ่งจะเป็นการบูรณาการจัดแพ็กเกจฮีลใจทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้

รัฐบาลเดินหน้าบริหารมาแค่ 3 เดือนยังเจอปัญหาพันละวันไปหมด ต้นทุนที่มีก็หมดหน้าตักติดลบไปแล้ว จะไปยืมใครให้มาฉุดก็ไม่ได้อีกแล้ว ทางที่ดีรัฐบาลควรออกมาชี้แจงให้เห็นถึงความจริงใจ พูดแบบตรงไปตรงมา ขั้นตอนการดำเนินการให้ชัดเจน สร้างความน่าเชื่อถือให้กลับมาโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นคนที่เริ่มไม่เชื่อ ก็จะไม่เชื่อเพิ่มมากขึ้น ความน่าเชื่อถือหมดไปบัลลังก์รัฐบาลก็สั่นคลอนได้

มาดูฝากฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกลก็เกิดอาการสั่นไหวอยู่ในอาการขาลงด้วย เช่นกันจากเรื่องสส.หื่น และเพจ“วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร”ออกมาแฉ ล่าสุด สส.ก้าวไกลตั้งสามีเป็นผู้ช่วยสส.แถมรับงานเอน จัดหาชาย-หญิง ส่งภาคตะวันออก ที่สำคัญยัง ปล่อยคลิป “พ่อทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ศิษย์เก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ถูกกองเชียร์โห่ไล่ ในงานการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 นัดชิงระหว่างโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย พบ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ที่สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ ขณะที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”ออกมายอมรับได้คุยกับ “ทักษิณ ชินวัตร”ช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาลจริงก็โดยถล่มเละ จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นโจทย์ยากของพรรคก้าวไกลเช่นกันว่า จะแก้เกมสู้เร่งกู้ศรัทธาขึ้นมาได้อย่างไร

พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่น้อยหน้ามีปัญหาที่หนักหน่วง ที่ล่าสุดมีการแก้เกมในพรรควางหมากเตรียมการไว้ก่อนที่จะมีการคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 9 ธ.ค.ด้วยการเพิ่มองค์ประชุมอีก150 คน แก้ปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ หลังจากที่ล่มไปแล้วถึง 2 ครั้ง มีการประลองกำลังกันระหว่างกลุ่มเลือดใหม่ในพรรคฯ ที่มีผู้สนับสนุนหลัก อย่าง เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคฯ เตรียมส่ง นราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯ ชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคฯ และ ส่ง เดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯที่ดูแลภาคใต้ เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ ขณะที่อีกฝ่ายพยายามเดินเกมสนับสนุน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคฯอีกครั้ง การจัดทัพใหม่ครั้งนี้จึงเป็นที่น่าจับตา ใครจะมาเป็นหน้าพรรคคนใหม่สามารถรวมกลุ่มในพรรคให้เกิดความสามัคคีจับมือเดินหน้าไปด้วยกันกู้วิกฤติศรัทธาให้กลับคืนมาเป็นพรรคในดวงใจของประชาชนได้อีกหรือไม่ แต่คงยังไม่ใช่เวลาไปทำหน้ารัฐบาลยังต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านไปก่อน แต่ก็ไม่แน่เพราะยุคนี้เกมการเมืองสามรถปรับเปลี่ยนไปได้ทุกสถานการณ์

หันมาส่องตู้เซฟของ 2 ลุง ที่ป.ป.ช.เปิดให้ดูหลังพ้นจากตำแหน่ง โดย “บิ๊กตู่” พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชามี 130 ล้าน ไร้หนี้ เงินเพิ่มขึ้นจาก 9 ปีก่อน ส่วน ‘ลุงป้อม’ พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ สถานะโสด มี 89 ล้าน เป็นหนี้ 757 บาท นาฬิกา 1 เรือน แหวน 9 วง ปืน 3 กระบอก

การเมืองนับจากนี้ใครจะสามารถพลิกกระดานการเมืองแก้เกมกู้วิฤตศรัทธาได้ก่อนกันหรือจะเละด้วยกันทั้งคู่พลิกกระดานการเมืองร้อน ปรับเกมชิงเหลี่ยมกู้ศรัทธา