เมื่อวันที่ 21 ก.ย. จากกรณีเด็กชายวัย 13 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้เสียชีวิตที่ รพ.กระบี่ ด้วยโรคโควิด-19 เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยญาติได้สงสัยสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากก่อนที่น้องจะเสียชีวิต ได้เข้ารับการรักษาด้วยอาการปวดท้อง ซึ่งแพทย์ระบุว่า ป่วยเป็นโรคฉี่หนู ก่อนส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.กระบี่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบญาติของเด็กชายดังกล่าว โดยเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่หลานเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.กระบี่ ด้วยโรคฉี่หนู กระทั่งเวลา 23.30 น. ของวันเดียวกัน หมอได้แจ้งว่า น้องเสียชีวิตด้วยโรคโควิด ทำให้ญาติงงกันมาก เพราะก่อนที่จะไปโรงพยาบาลได้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ไม่พบ และก็ไม่มีการแจ้งว่าน้องป่วยโควิด-19 แต่จู่ๆ เมื่อหลานเสียชีวิต ทาง รพ.กระบี่ กลับระบุว่า เสียชีวิตด้วยโควิด และบอกให้ญาติพาศพกลับไปเอง รวมเวลาที่เข้ารักษาประมาณ 22 ชม.

ทั้งนี้ญาติยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากว่าน้องเสียชีวิตด้วยโควิด เหตุใด รพ.กระบี่ จึงบอกให้พวกตนนำศพกลับเอง น่าจะมีรถโรงพยาบาลหรือรถกู้ชีพ ที่มีชุดป้องกันอย่างดีไปส่ง ซึ่งญาติก็รอจนถึงเช้าวันที่ 20 ก.ย. จึงได้ประสานรถกู้ภัยมารับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนา ยอมรับว่าก่อนหน้านี้น้องเคยป่วยโควิด ประมาณเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา แต่รักษาหายแล้ว ซึ่งสิ่งที่ญาติติดใจสาเหตุการตาย เพราะอยากให้หมอระบุให้ชัดว่า เป็นโรคอะไรเสียชีวิตกันแน่ ระหว่างโรคฉี่หนู หรือโควิด เพื่อคนข้างหลังจะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง

“เรื่องนี้ทางญาติจะไม่ติดใจการเสียชีวิต ถ้าหากทางโรงพยาบาลกระบี่ยืนยันว่าน้องติดโควิด ตั้งแต่ทำการรักษาในวันแรก แพทย์ยืนยันว่าน้องเป็นโรคฉี่หนูและยืนยันมาโดยตลอด แต่เมื่อน้องตายในวันที่ 19 ก.ย. กลับมีหนังสือรับรองการตายระบุว่าน้องเป็นโควิด ซึ่งทางญาติรับไม่ได้ และทางญาติพยายามขอหนังสือรับรองการตรวจยืนยันว่าน้องติดโควิด จากทางโรงพยาบาล แต่กลับได้คำตอบมาว่า ถึงเอาไปก็อ่านไม่ออก ให้เฉพาะหมอเท่านั้น” ญาติกล่าว

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อ นพ.สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผอ.รพ.กระบี่ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้.