เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการ ป.ป.ส. อาคาร 2 ชั้น 4 สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และในฐานะรักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยนายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด พลเรือโทนเรศ วงศ์ตระกูล รองเสนาธิการทหารเรือ น.อ.จตุพล ขันธุปัตน์ เสนาธิการสำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการยึดทรัพย์เครือข่ายเจ้าหน้าที่รัฐ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนทางภาคเหนือเข้าพื้นที่ตอนในและขยายผลจับผู้ต้องหาระดับผู้สั่งการ โดยมีการเข้าค้น 6 พื้นที่เป้าหมาย และจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 5 ราย

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ รรท.เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า สำหรับการขยายและยึดทรัพย์ดังกล่าว สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จับกุม ส.อ.ศุภากร (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี รับราชการเป็นรักษาราชการแทน ผอ.กองคลัง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี พร้อมของกลาง ยาบ้า 2 ล้านเม็ดบรรทุกในรถยนต์เก๋ง ที่ด่านปูแกง อ.พาน จ.เชียงราย ขณะกำลังลำเลียงลงสู่ภาคกลาง เจ้าตัวสารภาพว่าเคยก่อเหตุมาแล้วกว่า 12 ครั้ง และจะใส่เครื่องแบบเจ้าหน้าที่ อบต. ทำให้หลุดรอดการตรวจค้นของตำรวจมาตลอด และจากการจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลค้นพื้นที่อีก 7 จุด ยึดรถยนต์ได้ 6 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่ดิน 1 แปลง รวมมูลค่า 5.3 ล้านบาท ต่อมาได้สืบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอนุมัติออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้สั่งการ และผู้ร่วมขบวนการ 5 ราย อาทิ น.ส.ชไมพร (สงวนนามสกุล) น.ส.สุภานัน (สงวนนามสกุล) และนายสมชาย (สงวนนามสกุล) ส่วนอีก 2 รายขอสงวนการเปิดเผย เนื่องจากต้องขยายผล และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ป.ป.ส. ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด อายัดทรัพย์สินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 4 แปลง รถยนต์ 2 คัน เงินสด 278,000 บาท ทองคำ 10 รายการ ตู้เซฟ 3 ตู้ รวมมูลค่ากว่า 45 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นที่ได้มีการยึดอายัดทรัพย์สินจากเครือข่ายนี้ มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์นี้ที่เราได้ตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนในการค้ายาเสพติด ตนจึงได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบ โดยให้ประชาชนร่วมแจ้งเบาะแส หากพบมีข้าราชการคนใดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้งผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ทางการได้ พร้อมทั้งจะใช้อำนาจในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐตามมาตรา 14 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อตัดวงจรข้าราชการประพฤติตัวไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ตนจะให้การชื่นชมแก่ข้าราชการที่ทำงานดี ส่วนข้าราชการที่อาศัยอำนาจกระทำความผิด ก็จะมีการเสนอบทลงโทษ ผ่านบอร์ดคณะกรรมการ ป.ป.ส. เพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีและฝ่ายปกครอง เพื่อมีบทลงโทษข้าราชการที่กระทำผิดอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการโยกย้าย หรือลงโทษทางวินัย

ขณะที่นายปฤณ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. ระบุว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดดังกล่าวมีพฤติการณ์จัดหายาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ (จ.เชียงราย) ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าพื้นที่ตอนใน เก็บพักเพื่อรอส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายลำเลียงไปกระจายให้กลุ่มลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคี ได้มีการประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทย ตามปฏิบัติการ Quick Win กำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 5 (10) ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นการทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดได้ครบวงจรอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมยาเสพติด ขยายผลออกหมายจับผู้สั่งการ และผู้ร่วมขบวนการ รวมทั้งตรวจยึดทรัพย์สิน.