จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ปอย จอมทอง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ใครพอรู้จักผู้ชายในรูปมั่งครับ #ช่วยน้องทีแม่น้องไม่รู้จะทำยังไง ผู้ชายในรูปชื่อดอน เด็กที่โดนทำร้ายชื่อเฟินเป็นทอม มันล่อเฟินไปที่วัดแก้วไพฑูรย์ โดยเอาเฟซคนที่มันขโมยโทรศัพท์ทักมาหาน้องบอกจะขายมอไซค์ต่อ​ 5,000 แล้วน้องผมบอกไม่มีเงินมันเลยบอกขายให้ 3,000​ น้องผมเลยบอกจะเอา ด้วยความที่อยากได้รถแล้วคิดว่าคนที่ทักมาเป็นเจ้าของเฟซจริงๆเพราะน้องรู้จักกับเจ้าของเฟซ น้องเลยบอกให้มารับ พอรับน้องเสร็จมันทำร้ายร่างกายน้องแล้วจะเอาไปข่มขืนแต่น้องกลัวน้องเลยกระโดดน้ำหนีมาได้ตอนนั้นน้องแทบจะไม่ไหวแล้ว แต่โชคดีที่เจอแท็กซี่ แท็กซี่เห็นน้องสภาพแบบนั้นเลยมาช่วยพามาส่งบ้าน ตอนที่นั่งรถกลับน้องยังมีสติยังจำได้หมดบอกทางถูก พอน้องถึงบ้านน้องก็สลบไม่มีสติ ตอนนี้น้องมีอาการกรามแตก2 ข้างต้องทำศัลยกรรม น้องต้องใส่แพมเพิส ใครรู้จักหรือเจอช่วยโทรบอกทีนะครับ #ฝากแชร์ด้วยนะครับ. ถ้าใครเจอก็ระวังตัวด้วยนะครับมันมีปืนด้วย ต่อมากลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุช่วงบ่ายวานนี้ (21 ก.ย.) แม่ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ซึ่งต่อมาเวลา 19.30 น. พ.ต.ท.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ รอง ผกก.สส.และฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ได้ทำการควบคุมตัวชายต้องสงสัย อายุ 37 ปี ได้ที่ซอยสุขสวัดดิ์ 70 แยก 5 กรุงเทพฯ ขณะกำลังกบดานในบ้านเพื่อน ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก

จากการสอบสวนให้การว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เพราะก่อนหน้านี้รับจ้างทั่วไป แต่ตอนนี้ตกงาน ก่อนเกิดเหตุได้ขโมยโทรศัพท์ของเพื่อนทักเฟซบุ๊กไปหาผู้เสียหายอายุ 15 ปี ทำทีจะขายรถ​ จยย.ให้ ก่อนจะนัดเจอเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ซอยเอกชัย 16 จากนั้นได้ขึ้นรถแท็กซี่ไปที่ซอยสุขสวัสดิ์ 35 อ้างว่าไปดูรถ​ จยย. เมื่อไปถึงผู้เสียหายได้ถามหารถ​ จยย. ตนจึงบอกให้โอนค่ารถก่อน 5,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ยอม เพราะยังไม่เห็นรถ ตนจึงทำร้ายโดยการต่อยใบหน้าไป 2 ที ก่อนพยายามจะปลุกปล้ำ แต่ผู้เสียหายหนีกระโดดลงคลองหลบหนีไปได้

เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบประวัติชายต้องสงสัยรายนี้พบเคยมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด และได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลเป็นลบ ซึ่งจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.