เมื่อเวลา 15.27 น. วันที่ 9 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานรางวัลการแข่งขันเรือใบนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 35 ณ โรงแรมบียอนด์ กะตะ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงห้องกานดาฮอลล์ โรงแรมบียอนด์ กะตะ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการจัดการแข่งขันกิตติมศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงาน ฯ จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายเควินรอเบิร์ต วิทคร๊าฟท์ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ฯ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดการแข่งขัน ฯ และพระราชทานพระราชวโรกาสให้พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดการแข่งขัน ฯ เพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย

จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายธอมัสอาร์เตอร์ วิทคร๊าฟท์ กราบบังคมทูลรายงานผลการแข่งขัน ฯ และเบิกทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันประเภทต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัล พร้อมทั้งเบิกผู้สนับสนุนการจัดงานฯเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก ตามลำดับ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 35 ในทีมเรือวายุ รุ่น ไออาร์ซี ซีโร (IRC Zero) หมายเลขเรือ THA 72 ซึ่งเป็นเรือใบขนาดใหญ่ที่ใช้ในการแข่งขันระดับโลกโดยมีเรือเข้าแข่งขันจำนวน 4 ลำ จากประเทศสหรัฐอเมริกาประเทศออสเตรเลีย และประเทศไทย ณ หาดกะตะ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต สำหรับในการแข่งขันในวันนี้ทีมเรือใบของสมเด็จพระนางเจ้า ฯพระบรมราชินี เข้าเส้นชัยในลำดับที่ 1 ทั้ง 2 รอบการแข่งขัน

นายทอมัสอาร์เตอร์ วิทคร๊าฟท์ คณะกรรมการจัดการ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 35 หนึ่งในสมาชิกทีมวายุ กล่าวด้วยความชื่นชมในพระปรีชาสามารถในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ระหว่างที่ทรงร่วมแข่งขันบนเรือ ว่า ทรงเรือใบได้อย่างมีพระปรีชาสามารถและมีพรสวรรค์ ทรงมีทักษะการเล่นเรือใบได้ระดับนักกีฬาระดับประเทศ ทรงบังคับหางเสือเรือเพื่อให้เรือไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างเชี่ยวชาญ

“ตลอดชีวิตที่เล่นเรือใบของผม นี่เป็นครั้งแรกๆ ที่ผมประทับใจในพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระราชินีมากๆ เพราะพระองค์ทรงใช้เวลาศึกษาการเล่นเรือใบจนได้รับยอร์ชมาสเตอร์จากประเทศอิตาลี เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น แต่สามารถบังคับหางเสือเพื่อให้เรือไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งต้องใช้ทักษะพิเศษเป็นอย่างมาก ต้องดูทั้งทิศทางลมและน้ำเพื่อให้เรือถึงเป้าหมายเร็ว อีกทั้งยังทรงเล่นใบสปินเนเกอร์ตัวช่วยทำให้เรือแล่นตามลมด้วยความเร็วสูง ซึ่งต้องใช้ทักษะในการควบคุมสูงมาก ไม่เช่นนั้นใบเรือที่กางออกอาจจะพับตกน้ำได้ ซึ่งพระองค์ก็ทรงทำได้อย่างไม่มีที่ติ จนสามารถทรงทำให้เรือนำเข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรกทั้งสองรอบของการแข่งขัน”