กรณีพบศพนายสถาพร จินคำพะเนาว์ อายุ 48 ปี ชาว จ.นครราชสีมา เสี่ยเจ้าของรถทัวร์ เสียชีวิตที่บริเวณสะพานริมอ่างเก็บน้ำห้วยแฮด พื้นที่ บ้านโพธิ์ หมู่ 2 ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณลำคอและใต้ราวนมไม่ต่ำกว่า 5 แผล หลังแต่งงานใหม่กับแม่ม่ายลูกติด แล้วย้ายมาอยู่ที่จ.ศรีสะเกษ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ สันนิษฐานผู้ตายอาจถูกฆ่าจากที่อื่นก่อนจะนำศพมาทิ้งบริเวณดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เร่งล่า! ฆาตกรโหดกระซวกร่างพรุน ‘เสี่ยรถทัวร์’ ดับสยอง ศพทิ้งน้ำอำพรางคดี
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เชิญตัวคนครอบครัว ประกอบด้วย นางภูริชา พรมโสภา อายุ 51 ปี ภรรยาผู้ตาย นางเพ็ชรทิม หวังกุล อายุ 25 ปี และนายธนโชค พนิกรณ์ อายุ 21 ปี 2 ลูกเลี้ยงผู้ตาย มาสอบปากคำอย่างละเอียดต่อหน้าทนายความ โดยระหว่างสอบปากคำพบพิรุธหลายอย่าง ประกอบกับให้การวกไปวนมาไม่ตรงกัน จึงแยกสอบทีละคน ขณะเดียวกันให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทำการตรวจสอบภายในบ้านพักอย่างละเอียด พบรถจยย. และรถนิสสัน อเมร่า สีแดง รวมถึงที่นอนขนาด 5 ฟุต ภายในบ้านมีคราบน้ำสีแดงเหนียวข้นลักษณะคล้ายเลือด จึงยึดไว้เป็นหลักฐานไปตรวจพิสูจน์
กระทั่งต่อมา นางภูริชา และนางเพ็ชรทิม สองแม่ลูกให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุฆ่านายสถาพร และนำศพไปทิ้งตรงบริเวณจุดที่พบศพ ขณะที่ นายธนโชค รับว่ายังมีเพื่อนอีกหนึ่งคนเป็นผู้ร่วมก่อเหตุด้วย คือ นายพีรพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บขณะก่อเหตุถูกมีดแทงที่มือ โดย นายธนโชค เป็นคนพานายพีรพัฒน์ ไปส่งรักษาบาดแผลที่ รพ.ศรีสะเกษ ขณะที่นายพีรพัฒน์ ยังให้การปฏิเสธอ้างว่า แผลที่มือเกิดจากพยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้ตาย ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงนำตัว นายธนโชค ไปงมหาจุดทิ้งมีดที่ใช้ก่อเหตุ บริเวณลำห้วยซัน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเบื้องต้น กลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า สาเหตุมาจากผู้ตายชอบดื่มเหล้าแล้วมีปากเสียงกับภรรยาและลูกเลี้ยงบ่อยครั้ง โดยจะใช้คำพูดคำจาหยาบคาย มานานหลายปี จึงเกิดอารมณ์โมโหคับแค้นใจฝังลึกเรื่อยมา วันเกิดเหตุภายหลังผู้ตายกลับขึ้นบ้านนอน จึงร่วมกันก่อเหตุ โดยมี ลูกสาว นั่งทับกดขาไว้ ลูกชายนั่งทับตัว ภรรยาและเพื่อนลูกชายที่บาดเจ็บ ช่วยกันจับมือ แล้วร่วมกันใช้มีดจ้วงแทงจนเสียชีวิต จากนั้นนำศพใส่รถไปโยนทิ้งน้ำอำพราง อย่างไรก็ตามทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียวเนื่องจากทราบว่าผู้ตายมีประกันชีวิตนับล้านบาท และมีทรัพย์สินอยู่พอสมควร อยู่ระหว่างสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และซ่อนเร้นทำลายศพ ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ ลูกสาวแท้ๆของผู้ตาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกตกใจและสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตพ่อมาตั้งแต่เห็นข่าวครั้งแรกแล้ว เพราะก่อนพ่อเสียชีวิต ภรรยาใหม่พ่อ ได้โทรศัพท์ไปหาพี่ที่รู้จักเพื่อขอเบอร์โทรศัพท์ตน แต่พี่ไม่ได้ให้ไปอ้างว่าโทรศัพท์เครื่องเก่าพังเบอร์หาย อีกทั้งตนพยายามโทรศัพท์ไปหาก็ไม่รับสาย และไม่เชื่อว่าพ่อจะเป็นคนอย่างที่เขากล่าวหาว่าไปดุด่าเขาด้วยคำหยาบคาย เพราะเท่าที่รู้พ่อยอมเมียคนนี้ทุกอย่าง พูดอะไรพ่อก็เชื่อไปหมด อีกทั้งพ่อเพิ่งได้รับมรดกจากย่าที่เพิ่งเสียชีวิตไปหลายล้านบาท ตนเชื่อว่านี่อาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งของสาเหตุการฆาตกรรมในครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องมรดกส่วนนี้ด้วย ในส่วนของเรื่องคดีตนขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างถึงที่สุด