เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ตั้งข้อสังเกตการบริหารราชการแผ่นดินของของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีผิดพลาดมาตลอด ส่งผลกระทบกับภาพรวมของประเทศเสียหายหนักมาก ล่าสุดกระทรวงการคลังมีนโยบายขยายเพดานหนี้สาธารณะขึ้นชั่วคราวจาก 60% เป็น 70% ต่อจีดีพีขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมายอมรับว่ามีแผนในการกู้เงินเพิ่ม อ้างเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ หลายปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ กู้เงินมหาศาลด้วยข้ออ้างเดิมๆ คือแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การกล่าวอ้างว่ากู้เท่าที่จำเป็นจึงไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะทุกครั้งกู้เกินจำเป็นมาตลอด ที่ผ่านมาเงินกู้ที่รัฐบาลกู้ตามพระราชกำหนดเงินกู้ 2 ครั้ง จำนวน 1.5 ล้านล้าน ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้แต่อย่างใด
นายนพ กล่าวว่า รัฐบาลใช้ฐานเสียงในสภา เพื่อตีเช็คเปล่า และเงินที่กู้มารัฐบาล ประชาชนไม่ทราบข้อมูลว่าเอาไปใช้ในโครงการใดบ้างการตรวจสอบยากมากถึงขั้นตรวจสอบไม่ได้เลย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยมาชี้แจงต่อผู้แทนประชาชนว่าเงินกู้ไปใช้อะไร หากจะบอกว่ากู้มาแจกประชาชนตามมาตรการเป็นเพียงกลยุทธ์ของรัฐที่เปิดโอกาสให้เงินกู้จากรัฐบาล ย้ายไปเข้ากระเป๋าเจ้าสัวที่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ
“พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีแผนการใช้เงินที่ฉลาดกว่านี้ ไม่ใช่กู้เงินมาละลายแม่น้ำไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย นอกจากนี้รัฐบาลอ้างเงินกู้นำไปแก้ปัญหาโควิด แต่รัฐบาลไม่เคยมาชี้แจงว่าใช้งบประมาณไปเท่าไหร่ นอกจากนี้ข้อครหาเรื่องเงินกู้นั้น ประชาชนเชื่อว่าการใช้เงินกู้ของรัฐบาลมีปัญหาด้านความโปร่งใส และเอื้อพวกพ้องที่ผ่านมารัฐบาลชี้แจงไม่ได้ ส่งผลให้ประชาชนหมดศรัทธาในตัวพล.อ.ประยุทธ์ นานแล้ว” นายนพ กล่าว.