เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง  รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้สัมภาษณ์ “เดลินิวส์” ถึงกรณีข้อมูลคนไข้ของโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีถูกแฮกและนำมาเรียกค่าไถ่นั้น ได้สั่งการให้ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เข้าไปดำเนินการตรวจสอบและเร่งแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเป็นห่วง เพราะถือเป็นข้อมูลของประชาชน และยังส่งผลให้ระบบทำงานไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ สกมช.กำลังเร่งแก้ไข และทำการสืบสวนอยู่

“ปัญหาที่เกิดขึ้น ทางรัฐบาลจึงจะนำระบบคลาวด์มาใช้กับหน่วยงานรัฐทั้งหมดพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับทุกโรงพยาบาล ไม่ใช่แต่ละโรงพยาบาลแยกทำกันเอง จะต้องมีการยกเครื่องใหม่ ในเรื่องไซเบอร์ซีเคียวริตี้” นายประเสริฐ กล่าว

ด้าน พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวกับ เดลินิวส์ ว่า กรณีข้อมูลคนไข้ของโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีถูกแฮกและนำมาเรียกค่าไถ่นั้น ทาง สกมช.ได้เร่งทำการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นฝีมือกลุ่มแฮกเกอร์ ชื่อ ล็อค บิท  โดยเป็นข้อมูลของคนไข้ของจังหวัดประมาณ 1.5 ล้านรายชื่อ แต่ตัวเลขที่ชัดเจนยังต้องรอการยืนยันอีกครั้ง ส่วนข้อมูลที่ถูกแฮกไม่ได้เป็นข้อมูลการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย เป็นข้อมูลทั่วไป เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ

“ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าแฮกเกอร์จะมีการนำข้อมูลไปเผยแพร่หรือไม่ กำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งตอนนี้ได้เร่ง รีคัฟเวอรี หรือกู้คืนข้อมูล และจัดการการเข้าถึงระบบ ส่วนการเรียกค่าไถ่ของแฮกเกอร์นั้น ยังไม่ทราบว่ามีการเรียกค่าไถ่เท่าไร แต่ยืนยันยังไม่มีการเจรจากับทางแฮกเกอร์” พล.อ.ต.อมร กล่าว