จากกรณี “เอ็มมี่-อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์” หรือ “เอ็มมี่ แม็กซิม” ถูกหามส่งโรงพยาบาลด่วน ช่วงกลางดึกของวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากมีอาการเหมือนหยุดหายใจ โดยเพื่อนของเอ็มมี่ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เป็นภาพขณะพาเอ็มมี่ไปโรงพยาบาล พร้อมระบุข้อความว่า “หามเอ็มมี่ส่งโรงพยาบาลกลางดึก เหมือนหยุดหายใจ เรียกไม่ตื่น เป่าปากไปแล้ว รีบขับรถส่งด้วยสติที่ยังมี ถึงมือหมอแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้วนะเพื่อนรัก ซึ่งเอ็มมี่ได้ไปฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 ในวันดังกล่าว หลังจาก รับวัคซีนซิโนแวค เป็นเข็มที่ 1 ในวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

หาม‘เอ็มมี่ แม็กซิม’ส่ง รพ.หลับลึกปลุกไม่ตื่น หลังเพิ่งฉีดวัคซีนสูตรไขว้

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ก.ย. เอ็มมี่ อมลวรรณ เผยว่า ตอนนี้ไข้ลดแล้ว กำลังเดินทางออกไปทำงานแล้ว ตอนนี้ไม่มีไข้แล้ว โดยรวมดีขึ้น 80% แต่ว่ายังมีอาการปวดหัว มึนๆ ทั้งสองข้าง และเดินเซอยู่ หลังจากกลับมาพักผ่อนที่บ้าน เพราะเอ็มมี่ไม่ได้นอนโรงพยาบาล จริงๆคุณหมออยากให้แอดมิทมากกว่า แต่พูดกันตรงๆเลยว่า ค่ารักษาแพง เลยขอกลับมาพักที่บ้าน ทางโรงพยาบาลเลยให้เซ็นปฏิเสธการรักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอเลยบอกให้เช็ดตัวบ่อยๆ จนกว่าไข้จะลด และให้ยาคลายกล้ามเนื้อและยาลดไข้ ที่กินตามอาการ

เอ็มมี่ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย. หลังจากฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 เสร็จ เราก็มานั่งในห้องรอดูอาการ เลยถามพยาบาลว่าต้องทานยาลดไข้ตอนไหน พยาบาลก็ตอบว่าถ้ายังไม่มีอาการก็ยังไม่ต้องทานยา ผ่านไป 8-9 ชั่วโมง ไม่มีอาการอะไร เลยไปอาบน้ำ แต่อาบน้ำเสร็จรู้สึกหนาวผิดปกติ เลยอาบอีกที ก็รู้สึกทำไมมันหนาวเข้าไปในกระดูก และมือชา ขาชา เหมือนเดินออกจากห้องน้ำไม่ไหว เลยเดินออกมาที่ห้อง ปากสั่นไปหมด หนาวแบบไม่เคยหนาวมาก่อน ตอนแรกคิดว่า เป็นอาการที่เราเคยบล็อกหลังผ่าคลอดหรือเปล่า และทำหมันด้วย ตนจึงทานยาไป แต่ยังวัดไข้ได้ 36.6 เลยบอกเพื่อนว่าถ้าตนไม่ไหว พาไปที่โรงพยาบาลนี้ หลังจากนั้นตนรู้สึกเหมือนจะพูดให้ช่วยตนหน่อย แต่ไม่ไหวแล้ว จำได้ว่าตัวเองนอนคว่ำอยู่ และก็หมดสติไปเลย จนเพื่อนปั๊มหัวใจประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลสินแพทย์

เอ็มมี่ กล่าวอีกว่า ตอนนั้นร้องไห้กันทั้งบ้านแล้ว คิดว่าเอ็มมี่ตายแล้ว จนมารู้สึกตัวระหว่างทาง พอถึงโรงพยาบาล หมอก็ไม่อยากให้กลับบ้าน เพราะเราอาการเม็ดเลือดขาวมากกว่าเม็ดเลือดแดงอยู่แล้ว และเป็นพาหะธาลัสซีเมียด้วย เคยมีอาการเลือดติดเชื้อฉับพลัน เลยอาจทำให้ร่างกายเราไวต่อการฉีดวัคซีน ตอนแรกหมอจะเจาะเลือดเอ็มมี่อีกครั้งหนึ่ง แต่เราไม่ตรวจ เพราะกังวลเรื่องค่ารักษา พอกลับมายังมีอาการไข้วัดได้ 40.2 เสี่ยงช็อกมากๆ แต่ก็เช็ดตัวตลอด จนตอนนี้ไม่มีไข้แล้ว

เอ็มมี่ กล่าวด้วยว่า เพื่อนๆทุกคนพอรู้ข่าวก็ตกใจมาก ถามว่าแพ้วัคซีนหรือเปล่า ทุกคนมีสิทธิ เอ็มมี่ก็มีสิทธิคิดได้ เพราะเราอยู่ดีๆ แต่พอไปฉีดแล้วมีอาการขึ้นมา แต่เราไม่โทษวัคซีน เราโทษตัวเอง ที่ไม่ได้เตรียมความพร้อม และดูแลตัวเองก่อนไปฉีดวัคซีน เราพักผ่อนไม่เพียงพอ ลูกคนเล็กเพิ่งอายุได้ 4 เดือน เลยต้องตื่นมาให้นมลูกกลางดึก แต่ก็เป็นเรื่องที่เราเลี่ยงไม่ได้ และอยากบอกไว้เป็นข้อมูล เผื่อใครที่มีโรคประจำตัวเหมือนกับเอ็มมี่ อยากให้ระวัง และเช็กร่างกายตัวเองให้พร้อมก่อน แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทิ้งทุกอย่างที่เป็นความเครียด และคิดว่าตัวเองต้องปลอดภัย วันนี้เอ็มมี่ปลอดภัย และยืนยันว่าไม่โทษวัคซีน โทษตัวเองมากกว่า