ออกมาโลดแล่นในจอโทรทัศน์และสร้างความบันเทิงให้กับแฟนๆ มาตั้งแต่ภาคแรกจนภาคสอง สำหรับผลงานของนักเขียนคนดัง รอมแพง กับ บุพเพสันนิวาส และ พรหมลิขิต ล่าสุดที่เพิ่งออนแอร์และโกยเรตติ้งหน้าจอโทรทัศน์อยู่เวลานี้ ล่าสุดละครกำลังจะจบลงแล้ว รอมแพงเลยถือโอกาสออกมาโพสต์ถึงพรหมลิขิตผลงานเธอสักหน่อย

“ละครพรหมลิขิตเหลือเพียงอีกแค่ตอนเดียวก็จะอวสานในวันจันทร์ที่จะถึงนี้แล้วนะคะ ถ้าไม่เป็นการรบกวนก็อยากให้ติดตามดูจนจบค่ะ ส่วนดิฉันนั้น คิดว่าทุกคนในทีมทำละครได้ทำหน้าที่ของตนได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ส่วนหน้าที่ของดิฉันคือเขียนนิยาย และได้ส่งต่อพร้อมทั้งบอกเล่าทุกอย่างในเชิงนิยายไปหมดแล้วเช่นกัน จะมีก็แค่การบอกความหมายคำว่า พรหมลิขิต ในมุมมองของการตั้งชื่อนิยายที่ยังไม่ได้บอกหน้าเพจนี้

“พรหมลิขิต ความหมายหนึ่งของชื่อนิยาย คือ พ่อแม่ เป็นดุจดั่งพรหมของลูก เหมือนที่ชีปะขาวท่านพยายามฝืนกฎธรรมชาติด้วยความรู้สึกผิด ช่วยดึงย้อนเวลา รวบรัดการชดใช้กรรม เพื่อให้ การะเกดหรืออทิตยา ได้มีความพัฒนาทางจิตวิญญาณไปควบคู่กับเจ้ากรรมนายเวรทุกคน (ซึ่งเรื่องการย้อนเวลาตรงนี้จะเป็นในแนวแฟนตาซีที่เรื่องจริงไม่มีวันเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นได้) พรหมลิขิต ในอีกความหมายของชื่อนิยายเรื่องนี้ คือ ทุกสิ่งล้วนไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ แต่ถูกกำหนดให้มีหน้าที่ต้องกระทำและดำเนินไปในทิศทางที่ต้องเป็นไป ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องความรัก มนุษย์เลือกพรหมลิขิตของตัวเองได้ แต่ไม่ว่ามนุษย์จะเลือกเดินไปทางไหนจุดมุ่งหมายก็ยังคงเป็นเรื่องเดิมๆ คือการเรียนรู้เรื่อง การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดังนั้นก็สามารถจะเรียกได้ว่า นิยายทั้งบุพเพสันนิวาส และพรหมลิขิต ไม่ได้เป็นของดิฉันอย่างแท้จริง ดิฉันแค่ทำหน้าที่ที่ต้องทำในฐานะนักเขียนเพื่อสื่อออกมา ได้เป็นเจ้าของในระยะเวลาหนึ่งในชั่วชีวิตนี้ และสุดท้ายดิฉันก็ต้องจากไป

“สิ่งที่ดิฉันคาดหวังมีเพียงนิยายของดิฉันจะทำให้ทุกคนที่ได้อ่านมีความสุข ขอบคุณมากนะคะ ที่คอยติดตามสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด และหวังว่าจะสนับสนุนนิยายของดิฉันในเรื่องราวอื่นๆ ต่อไปนะคะรัก รอมแพง”

หลังจากมีการโพสต์เรื่องราวนี้ไป ในโลกออนไลน์ก็มีคนมาไลก์และมอบกำลังใจให้รอมแพง พร้อมบอกว่าละครสนุกมาก และนิยายก็ยิ่งสนุก รอภาค 3 ก็มี เป็นต้น

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รอมแพง