สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์กำหนดเส้นตาย ภายในวันที่ 31 ธ.ค. นี้ ให้ผู้ประกอบการรถจี๊ปนีย์ปิดแฟรนไชส์ของตนเอง และรวมตัวเป็นสหกรณ์ ตามโครงการเปลี่ยนยานพาหนะที่แพร่หลายในประเทศ เป็นรถมินิบัสซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่
กระนั้น ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้กลุ่มคนรถจี๊ปนีย์ ตัดสินใจหยุดงานประท้วงเป็นเวลา 12 วัน พร้อมกับขอความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงนี้
Philippine jeepney drivers on 12-day strike to protest shift to EV-powered minibuses https://t.co/6wI56I3lck
— ST Foreign Desk (@STForeignDesk) December 18, 2023
ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ผู้ประกอบการรถจี๊ปนีย์ ประมาณ 70% มุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมโครงการข้างต้น และพวกเขาสามารถให้บริการต่อไปได้ จนถึงสิ้นปี 2567 แต่ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดก่อนถึงเส้นตาย จะสูญเสียใบอนุญาตประกอบกิจการทันที
แม้โครงการดังกล่าว ซึ่งมีอายุ 6 ปี สนับสนุนเป้าหมายของประเทศ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 75% ภายในสิ้นทศวรรษนี้ จากระดับในปี 2563 แต่รัฐบาลมะนิลา ยังต้องการสร้างสมดุลให้กับโครงการริเริ่ม โดยปกป้องผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และป้องกันพวกเขาจากการสูญเสียการครองชีพด้วย
ทว่าสำหรับ “มาริเบลา” ซึ่งเป็นกลุ่มคนขับรถจี๊ปนีย์ ผลกระทบของการเปลี่ยนมาใช้รถอีวี จะเลวร้ายยิ่งกว่าผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้การขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่ชะงักงัน
อนึ่ง มันเป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันว่า รัฐบาลมะนิลา จะตอบสนองต่อการประท้วงที่ยาวนานที่สุด ในภาคส่วนการขนส่งของประเทศอย่างไร หลังความพยายามก่อนหน้านี้ ประสบความล้มเหลว ในการทำให้การขนส่งสาธารณะของประเทศเป็นอัมพาต.
เครดิตภาพ : AFP