นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคม ได้นำโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง(รถไฟฟ้าสายสีแดง) ส่วนต่อขยาย ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 6,468 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเรื่องอยู่ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) อยู่ระหว่างรอบรรจุวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) กลับมาปรับเพิ่มเส้นทางดังกล่าวให้มีระยะทางยาวขึ้นกว่าเดิม ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะขยายสังคมเมืองกระจายออกไปนอกเมือง โดยจะใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นเครื่องมือในการเดินทางของประชาชน

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจะปรับเพิ่มเส้นทาง ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ให้มีระยะทางยาวไปถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะเดียวกันจะปรับเพิ่มเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ซึ่งเดิมมีระยะทาง 14.8 กม. วงเงิน 10,670 ล้านบาท ให้มีระยะทางยาวไปจนถึง จ.นครปฐมด้วย อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มระยะทางของ 2 เส้นทางดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลาในการปรับเพิ่มรายละเอียด อาทิ ระยะทาง และกรอบวงเงิน และเสนอกลับมากระทรวงคมนาคมได้ประมาณหลังเทศกาลปีใหม่ 67 หรือประมาณภายในเดือน ม.ค.67 จากนั้นจะเสนอให้ ครม. พิจารณาได้ไม่เกิน 2 เดือน หรือไม่เกินเดือน มี.ค.67 

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 4,616 ล้านบาท ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง และระยะทาง ยังคงเป็นเส้นทาง และกรอบวงเงินเดิม ซึ่งขณะนี้เส้นทางดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดว่าจะเสนอ ครม. อนุมัติได้ในช่วงต้นปี 67 อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมมีนโยบายเร่งรัดดำเนินโครงการรถไฟสายสีแดงส่วนต่อขยาย แต่เมื่อรัฐบาลมีนโยบายที่จะกระจายสังคมเมืองออกไปนอกเมือง และปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่อยู่อาศัยนอกเมืองมากขึ้น กระทรวงคมนาคมจึงต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า เพื่อให้มีระบบขนส่งสาธารณะที่สมบูรณ์ สามารถรองรับ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ –หัวลำโพง (Missing Link) ระยะทาง 25.9 กม. ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับแบบสถานีราชวิถีใหม่ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งต้องประเมินราคาค่าก่อสร้างใหม่ เบื้องต้นอาจต้องปรับกรอบวงเงินเพิ่มประมาณ 2,843 ล้านบาท จากเดิม 44,157 ล้านบาท เป็นประมาณ 47,000 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอ ครม. พิจารณาในปี 67 เช่นกัน ส่วนเรื่องการบริหารงานเดินรถ งานระบบตั๋ว จัดหาขบวนรถ และการดำเนินงานและบำรุงรักษา(O&M) ซึ่งเดิมจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

สำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมือง ส่วนต่อขยายสายสีแดง ทั้ง 4 เส้นทาง เดิม รฟท. มีเป้าหมายเปิดประมูล และเริ่มงานก่อสร้างโครงการฯ ตั้งแต่ปี 64 แต่เนื่องจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรมว.คมนาคม ในรัฐบาลชุดที่ผ่านมามีนโยบายปรับแผนการลงทุนโครงการเป็นรูปแบบ PPP จึงต้องใช้เวลาศึกษารายละเอียดการดำเนินการดังกล่าวอีกครั้ง และสุดท้ายได้ผลสรุปว่า จะเปิดประมูลงานก่อสร้าง และงานระบบ 4 เส้นทางก่อน จากนั้นจึงเปิดประมูล PPP งานเดินรถ จัดหาขบวนรถ และการดำเนินงาน และบำรุงรักษา (O&M) ต่อไป

อย่างไรก็ตามทั้ง 4 เส้นทาง ก่อนหน้านี้ ครม. อนุมัติโครงการทั้งหมดแล้ว ซึ่งช่วง Missing Link อนุมัติตั้งแต่ปี 59 ส่วนอีก 3 เส้นทางอนุมัติตั้งแต่ปี 62 แต่เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีหลายปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น แต่ละโครงการจึงต้องทบทวนราคาค่าก่อสร้าง และปรับกรอบวงเงินใหม่ ทำให้ต้องเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง ซึ่งมีการเตรียมเสนอเข้า ครม. ตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้มีการนำเสนอ จนกระทั่งล่าสุดเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มีนโยบายให้ปรับเพิ่มระยะทางให้ยาวขึ้น จึงต้องปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนเสนอ ครม. พิจารณาเห็นชอบ และดำเนินการเปิดประกวดราคา และก่อสร้างต่อไป.