เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ 3 เดือนของรัฐบาลทำงานสะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง นโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ตไม่ชัดเจน ว่า เป็นสิทธิที่นายชัยธวัช ตั้งข้อสังเกตได้ แต่สิ่งที่รัฐบาลทำจนเป็นที่ยอมรับ คือการทำงานหนักของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องที่สำเร็จและโพลแทบทุกสำนักสะท้อนว่าประชาชนชื่นชอบ ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้สะเปะสะปะ เพียงแต่ดำเนินการในรูปแบบคณะกรรมการให้การดำเนินการที่รัดกุมและประชาชนได้ประโยชน์ มีความชัดเจนโดยลำดับ นายชัยธวัช นอกเหนือจากการตั้งคำถามกับรัฐบาลแล้ว ช่วยตั้งคำถามกับตัวเองด้วยว่า ตั้งแต่มาเป็นหัวหน้าพรรค ทำให้กระแสนิยมของพรรคก้าวไกลหายต๋อมไปหรือไม่ เฉพาะกรณีของการขับลูกพรรคปีเดียว 3 คน จะอธิบายอย่างไร และมีแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีกได้ ทำไปถึงไหนแล้ว 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ระบุว่าต้นปีหน้า เรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะกลายเป็นประเด็นขย่มรัฐบาลนั้น เป็นเหมือนความหวังลมๆ แล้งๆ ของคนที่จะหาประเด็น เพื่อเป็นจุดเปลี่ยนรัฐบาล สวนทางกลับนักวิเคราะห์และประชาชนที่วิเคราะห์ว่ารัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง จะอยู่ครบเทอม และขณะที่รัฐบาลมี 315 เสียง ถือว่าเป็นปึกแผ่นและมีเสถียรภาพ เข้าใจว่าประเด็นนายทักษิณ จะเป็นประเด็นเดียวที่ทำให้ฝ่ายค้านมีลุ้น ทั้งที่ไม่มีอะไรเลย ก่อนหน้านี้เรียกร้องให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม วันนี้นายทักษิณ ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว หากเห็นว่ากฎหมายหรือระเบียบราชทัณฑ์มีปัญหา ก็ควรไปเสนอแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่างๆ ไม่ใช่จ้องจะมาเล่นงานที่ตัวนายทักษิณเช่นนี้

ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวเช่นเดียวกันว่า สิ่งที่นายชัยธวัช พูดเรื่องนายทักษิณ เป็นการพูดในหลักการย่อมพูดได้ แต่ตนเชื่อว่าหลังปีใหม่ เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งทางโรงพยาบาลตำรวจ กรมราชทัณฑ์ คงชี้แจงในระเบียบขั้นตอนต่างๆ ตนไม่เป็นห่วงประเด็นนี้จะกระทบรัฐบาล เพราะข้อเท็จจริงคือนายทักษิณ นอนรักษาตัวอยู่จริง เท่าที่สอบถามจากหลายคน ทราบว่าท่านไม่สบายอยู่จริง พวกตนก็เป็นห่วง จะไปเยี่ยมท่านก็ไม่ได้ เมื่อท่านป่วยอยู่จริงจะให้ทำอย่างไร แต่เรื่องนี้ก็แล้วแต่ใครจะมอง คนฝ่ายตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทยก็มองอีกแบบหนึ่ง เราพูดอย่างไรก็ไม่เชื่อ เพียงแต่ว่าวันนี้เป็นระเบียบขั้นตอนปฏิบัติของโรงพยาบาลและกรมราชทัณฑ์ที่คนไปเยี่ยมไม่ได้ แม้แต่ สส.พรรคเพื่อไทย ที่มีความผูกพันกับนายทักษิณ ยังไม่มีสิทธิไปเยี่ยมเลย อย่าว่าแต่คนทั่วไปที่เป็นห่วง หรือคนที่เป็นปรปักษ์จะขึ้นไป เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ ก็พูดได้เพียงเท่านี้ แต่ยืนยันส่วนตัว และพรรคพวกที่เป็นผู้แทนที่ผูกพันกับนายทักษิณ ไม่มีใครเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะข้อเท็จจริงมันชัดเจน.