สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 2 ม.ค. โดยอ้างข้อมูลจากสำนักข่าวทาสนิมของอิหร่าน ว่าเรือพิฆาต “อัลบอร์ซ” ของกองทัพเรืออิหร่าน เดินทางผ่านช่องแคบบับ อัล-มันเดบ ที่อยู่นอกชายฝั่งเยเมน “เพื่อรักษาความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือ และปฏิบัติภารกิจต่อต้านโจรสลัด” โดยนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2552 ที่เรือรบของอิหร่านเข้าไปประจำการในทะเลแดง


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของอิหร่านเกิดขึ้น หลังสหรัฐประกาศเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา รวบรวมพันธมิตรกองกำลังผสม “เพื่อปกป้องทะเลแดง” จากการยิงขีปนาวุธและโดรนของกองกำลังฮูตี ที่ส่งผลให้เรือบรรทุกสินค้าต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางออกจากทะเลแดง ซึ่งตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566


ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์จากเรือรบของกองทัพสหรัฐ โจมตีเรือโดยสาร 3 ลำ ของนักรบฮูตี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน หลังจากนั้น กลุ่มฮูตีถอยร่นกลับมาที่เมืองโฮไดดาของเยเมน


ด้านกองทัพสหรัฐออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เพียงว่า เรือรบที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในทะเลแดง ได้รับสัญญาณการขอความช่วยเหลืออย่างน้อยสองครั้ง จากเรือบรรทุกสินค้า “เมอส์ก หางโจว” ของบริษัทเมอส์ก จากเดนมาร์ก ว่าตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี โดยขีปนาวุธของกองกำลังฮูตี ระหว่างกำลังล่องผ่านช่องแคบ บับ อัล-มันเดบ นอกชายฝั่งของเยเมน และเรือของกลุ่มฮูตี 3 ลำ พยายามเข้าประชิด เพื่อโจมตีและยึดเรือ


ทั้งนี้ เมอส์กประกาศระงับการเดินเรือขนส่งสินค้าผ่านทะเลแดงแล้วรอบหนึ่ง เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา และเพิ่งกลับมาเดินเรือผ่านเส้นทางนี้ได้เพียง 5 วัน ก่อนเกิดเหตุกับเรือเมอส์ก หางโจว ส่งผลให้เมอส์ก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เดนมาร์ก ระงับการเดินเรือผ่านทะเลแดงอีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมง ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP