ฟุตบอลไทยลีก ยังเหลือโปรแกรมอีก 1 นัด แต่เป็นเกมใหญ่ เกมสำคัญมาก ระดับชี้ชะตาสู่แชมป์ได้เลย

“แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

แข่งขันวันที่ 6 ม.ค. 67 เวลา 19.00 น. ที่ ทรู สเตเดี้ยม

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใคร เตะ 14 นัด ชนะ 10 เสมอ 4 มี 34 แต้ม

ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตะ 14 นัด ชนะ 7 เสมอ 6 แพ้ 1 มี 27 แต้ม

หาก ทรู แบงค็อก ชนะจะมี 37 แต้ม ปิดเลกด้วยการทิ้งห่างอันดับ 2 การท่าเรือ ที่มี 29 แต้ม ไปเป็น 8 แต้ม นับว่าไกลโข

ส่วน บุรีรัมย์ ที่เลกแรกฝืดๆ จนเกือบจะหลุดวงโคจรนั้น หากว่าชนะเกมนี้ จะมี 30 แต้ม ตามแข้งเทพแค่ 4 แต้ม กลับมาอยู่ในเส้นทางเต็มตัวทันที

ในมุมกลับกัน ถ้า บุรีรัมย์ แพ้ ตามหลัง 10 แต้ม ดูจะยากเย็นเกินไป

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ของ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน ฤดูกาลนี้มาแรง และเล่นเหนียวแน่น จุดเด่นคือเกมรับ เสียแค่ 6 ประตู จาก 14 นัดเท่านั้น

แข้งเทพ มองถึงแชมป์ประวัติศาสตร์สโมสร แต่ความน่ากังวลคือ 2 เกมก่อนหน้าดันออกเสมอ ในการเล่นในบ้านพบ โปลิศ เทโร ที่ได้ประตูตีเจ๊า ช่วงทดเวลา และบุกเสมอ ชลบุรี เอฟซี แบบไม่มีสกอร์

จากที่ลอยลำ กลายเป็นบินต่ำลงมาให้ทีมผู้ตามมีโอกาสฉุดขามาสู้

โดยเฉพาะขาประจำอย่าง บุรีรัมย์

ทรู แบงค็อก มีนักเตะติดไปเล่นทีมชาติไทย เกมแพ้ ญี่ปุ่น แต่ไม่มีปัญหาอะไรนัก ยังฟิตอยู่ โดยเฉพาะ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ที่ช่วงหลังเร่งฟอร์มขึ้นมาเป็นตัวหลัก ขณะที่ความหวังเกมรุก คือ วิลเลน โมตา ที่ยิงไป 10 ลูก, มาห์มูด เอด ขณะที่ เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส ยืนแข็งแกร่งแนวรับ ด้าน ปกเกล้า อนันต์ เจ็บ ต้องถอนตัวจากทีมชาติไทย รอลุ้นว่าจะลงสนามได้หรือไม่

ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีช่วงที่ฝืด เสมอ 5 นัดติด แต้มหายไป 10 แต้ม แถมยังมีเกมสะเทือนใจ บุกแพ้ การท่าเรือ เอฟซี 1-4 สถานการณ์ย่ำแย่ ทำท่าจะหลุดวงโคจรลุ้นแชมป์

แต่ 2 นัดล่าสุด แก้ตัวเอาชนะได้ เปิดบ้านถล่ม อุทัยธานี 4-0 และบุกชนะ พีที ประจวบ 2-1

แม้จะชนะทีมเล็ก แต่ 6 แต้มที่ได้ ในช่วงที่ ทรู แบงค็อก หลุดเสมอ 2 นัด ทำให้ บุรีรัมย์ กลับมามีโอกาส

อาเธอร์ อาสปาส กุนซือใหญ่ เริ่มหายใจหายคอได้โล่งขึ้นนิดหนึ่ง หลังจากแรงกดดัน ที่เอามาแทน มาซาทาดะ อิชิอิ แต่กลับทำได้ไม่ดี

บุรีรัมย์ ไม่น่ามีปัญหาความฟิต นักเตะไปทีมชาติ 2 คน ธีราทร บุญมาทัน เล่นไปครึ่งเดียว ส่วน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ไม่ได้ลง ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

ศุภชัย ใจเด็ด ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ช่วงหลังองค์ลงยิงรัวๆ, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ก็ไม่ได้ถูกเรียกไปทีมชาติ โดย โกรัน เคาซิช แกนหลักแดนกลาง

ปราสาทสายฟ้า ผ่านครึ่งเลกแรกไม่ดีนัก บอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตกรอบแล้ว เนวิน ชิดชอบ ประธาน สโมสรหันมาพุ่งเป้ากับการคว้า 3 แชมป์บอลไทย อีกสมัย

บอลถ้วย ว่ากันนัดต่อนัด แต่สำคัญคือบอลลีก

และเกมสำคัญคือเกมนี้

แข้งเทพ มีโอกาสทำคะแนนทิ้งห่างถ่างออกไป หากชนะ พร้อมกับปิดความหวังของ บุรีรัมย์ ด้วย

เพราะว่ากันตรงๆ ถ้าจะมีใครแย่งแชมป์ บุรีรัมย์ ยังน่ากลัวเสมอ หากว่าตั้งลำได้ ม้าตีนปลายแรงจัด แถมจะยิ่งไปเพิ่มความกดดันให้ ทรู แบงค็อก

ส่วน บุรีรัมย์ ถ้าแพ้ก็จบ…10 แต้ม มันยากเกินไป แต่ถ้าชนะตามแค่ 4 แต้ม กระโจนไปรองจ่าฝูง กลับสู่เส้นทาง

และยังช่วยให้ศึกแย่งแชมป์ยิ่งเดือด เพราะเป็นผลดีกับ อีก 2 ทีม การท่าเรือ กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้ตาม ทรู แบงค็อก 5 แต้มด้วย

แม้ผ่านมาแค่ครึ่งฤดูกาล แต่จะบอกว่าแมตช์วันที่ 6 ม.ค. 67 นี้ คือจุดยุทธศาสตร์ แย่งแชมป์ไทยลีก ก็ไม่ผิดนัก

จะปิดกล่องผูกโบตั้งแต่เลกแรก หรือเกมเปิดให้บิ๊กโฟร์ซัดเดือดในเลก 2

จบเกมนี้มีคำตอบ.

*** วุฒินล ***