จากกรณีที่ นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมนายจิรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา พาผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตผู้บำบัดจากวัดท่าพุราษฎร์บำรุง ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ประมาณ 10 คน เข้าร้องทุกข์กับทางกองปราบฯ เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์บำบัดฯดังกล่าว หลังพบว่า ไม่เป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงยังมีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดค้ามนุษย์ เนื่องจากมีการทำเป็นขบวนการตั้งแต่จัดหาผู้บำบัด การเรียกรับเงินผลประโยชน์ กักขังทรมานทำร้ายทุบตี ต่อมาชุดจับกุมยาเสพติด สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “หมอปลา” ในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

จ่อเรียก​ “หมอปลา”ให้ปากคำคดีหมิ่นประมาทฯ อ้างตร.เรียกเงินพาคนไปบำบัดยา

ตร.ร้อยเอ็ดจ่อเอาผิด ‘หมอปลา’ พาดพิงจับผู้เสพส่งสถานบำบัด ‘นรกบนดิน’

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมครอบครัวผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.จักรภัทร กลิ่นอ่อน รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. เพื่อนำหลักฐานเอกสารเป็นสลิปการโอนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง มามอบให้ประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม

นายไพศาล กล่าวว่า วันนี้ได้พาพยานบุคคลซึ่งเป็นแม่ของผู้ที่เคยเข้ารับการบำบัดในศูนย์ดังกล่าวมาให้ปากคำ พร้อมกับนำเอกสารสลิปการโอนเงินของครอบครัวผู้เสียหายที่โอนให้กับทางศูนย์ดังกล่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนาย มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีการโอนเงินให้กับบุคคลเหล่านี้จริงไม่ได้เป็นการกล่าวหาหรือกลั่นแกล้งตามที่เข้าใจ ซึ่งจากคำบอกเล่าของพยานเหล่านี้ก็สอดคล้องกับเอกสารหลักฐานต่างๆที่นำมามอบให้ โดยในเอกสารสลิปการโอนเงินมีการระบุชื่อบัญชีปลายทางชัดเจนและบุคคลดังกล่าวจากการตรวจสอบก็พบว่า เป็นตำรวจจริง ส่วนจะทำกันเป็นขบวนการหรือไม่นั้น คงต้องปล่อยให้ทางกองปราบฯ พิสูจน์ข้อเท็จจริง

“ที่ผ่านมาให้เกียรติเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเอ็ดทุกอย่าง ถ้าเราจะคิดจะทำลายภาพลักษณ์จะมาร้องทุกข์ผ่านทางตำรวจกองปราบฯ ให้ช่วยตรวจสอบทำไม ตำรวจคนไหนทำผิดทำไม่ดีก็ต้องขจัดสิ่งที่ไม่ดีออกไป การที่พยานบุคคลที่เป็นครอบครัวของผู้เสียหายยอมออกมาในวันนี้ก็เพื่อต้องการปกป้องหมอปลา ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา ทั้งๆที่พวกเราทำเพื่อพี่น้องประชาชนและช่วยเหลือสังคม” นายไพศาล กล่าว

ด้านนางไก่ (นามสมมุติ) หนึ่งในพยานบุคคล เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายของตนเคยเข้ารับการบำบัดที่ศูนย์ดังกล่าว ยืนยันว่ามีการโอนเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเอ็ดบางนายจริง ยศ ด.ต. โดยอ้างว่าเป็นเงินค่าแรกเข้าและค่าดำเนินการต่างๆ โอนไปจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรก 30,000 บาท ครั้งที่สอง 35,000 บาท รวม 65,000 บาท การออกมาในวันนี้ก็เพื่อเป็นการปกป้องหมอปลาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหา