เมื่อวันที่ 10 ม.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ให้นโยบายกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลกระบวนการการสอบคัดเลือกบุคลากรเข้ารับราชการในองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กำลังจะเปิดรับสมัครสอบเข้าแข่งขันในปี 2567 จะต้องปลอดการทุจริต โดยเน้นย้ำว่ากระทรวงมหาดไทย จะร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบการสอบครั้งนี้อย่างเข้มงวด และตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้เกี่ยวข้อง และผู้มีประวัติเรียกรับผลประโยชน์ และหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับทุกรายไม่มีละเว้น
ท่าน รมว.มหาดไทย ได้รับรายงานจากผู้เกี่ยวข้องว่า ในอดีตมีการเรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบในหลายจังหวัดทั่วประเทศ มีประชาชนถูกหลอกจำนวนมาก มีการฟ้องร้อง เป็นคดีอยู่ในศาลหลายคดี มีผู้เสียหายจำนวนมาก ในการสอบครั้งนี้ จึงได้ให้นโยบายอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ว่า ต้องตรวจสอบและหามาตรการป้องกัน ไม่ให้มีการเรียกรับเงิน ไม่ให้ผู้เข้าสอบถูกหลอก เหมือนอดีตที่ผ่านมา และต้องมีมาตรการที่จะกำกับดูแลการจัดสอบให้เป็นด้วยความสุจริต ทุกขั้นตอน
การสอบครั้งนี้ มีปัญหาตั้งแต่การคัดเลือกผู้ดำเนินการจัดสอบ เคยทำสัญญากับรายหนึ่ง แล้วก็ยกเลิกไป ต่อมามีการคัดเลือกผู้จัดสอบใหม่ได้อีกรายหนึ่งมาเป็นผู้จัดสอบ ซึ่งการเกิดกรณีเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ จะต้องมีการพิจารณาให้ดี ๆ ตั้งแต่เหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงว่าได้มีการวางมาตรการกำกับดูแลกันที่ดีพอหรือยัง และขอเน้นย้ำว่า หากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น ผู้เกี่ยวข้องทุกขั้นตอนต้องร่วมกันรับผิดชอบตามกฎหมายทั้งทางแพ่ง อาญา และโทษวินัย ตั้งแต่ผู้ดำเนินการให้มีการสอบ คือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยผู้รับจ้างจัดการสอบ ผู้เข้าสอบผู้เรียกรับเงิน และผู้ประกาศผลสอบ

“ท่าน รมว.มหาดไทย ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการ หากมีการทุจริต เท่ากับเป็นการตัดโอกาสทางราชการที่จะได้รับคนดี มีความสามารถเข้าทำงาน ผู้มีส่วนร่วมกับการทุจริต เป็นขบวนการที่เอาเปรียบประชาชนผู้สอบและครอบครัว สำคัญที่สุดคือเป็นการทำลายศักดิ์ศรีข้าราชการ การเข้าสู่ตำแหน่งทุกตำแหน่ง ต้องใช้ความรู้ความสามารถ เป็นกุญแจดอกแรกไขเข้ามา ไม่ใช่ใช้เงินมาซื้อตำแหน่ง ในยุคที่ผมเป็น รมว.มหาดไทย ต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ใครทำ หากตรวจสอบพบต้องลงโทษสูงสุดเท่าที่กฎหมายกำหนด ไม่มีลดหย่อนผ่อนโทษ ไม่มีบรรเทาโทษ ไม่มีละเว้น ทุกคนที่ร่วมดำเนินการต้องรับโทษ ไม่มีเว้น ผู้เข้าสอบที่พบว่ามีการทุจริต จะตัดสิทธิการสอบเข้ารับราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดชีวิต หากเข้ามาแล้ว ต่อมาพบว่ามีการกระทำทุจริตการสอบ จะต้องยกเลิกผลการสอบ และต้องได้รับโทษ”
รมว.มหาดไทย ได้ให้นโยบายด้วยว่า การออกข้อสอบในปีนี้ ขอให้เป็นไปตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย คือต้องมีข้อสอบวัดความรู้ ประวัติศาสตร์ชาติไทย จิตสำนึกความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เสริมสร้างความภาคภูมิใจที่เป็นคนไทย รักศักดิ์ศรีข้าราชการ อย่างน้อย 30% ของข้อสอบ และจะต้องไม่รับผู้ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเมาแล้วขับทุกกรณี เข้าสู่ราชการอย่างเด็ดขาด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในการเปิดสอบข้าราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ละปีจะมีผู้สมัครประมาณ 6 แสนคน เข้าสอบประมาณ 4 แสนคน มีการจัดสอบกระจายอยู่ทั่วประเทศ และมีผู้ผ่านการสอบประมาณ 18,000-20,000 คน แต่ล่าสุดได้มีประชาชนเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับ รมว.มหาดไทย ว่า ได้มีการเรียกรับผลประโยชน์จากการสอบ ประชาชนที่ต้องการให้ลูกหลานเข้ารับราชการต้องเสียเงิน 5-8 แสนบาท ซึ่งทำให้ประชาชนที่มีความสามารถเดือดร้อน ขณะที่ราชการก็เสียหาย
“ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ประชาชน และผู้เข้าสอบท่านใดที่มีข้อมูล เบาะแสการเรียกรับเงิน การทุจริต ขอให้แจ้งมาที่ เลขานุการ รมว.มหาดไทย เพื่อป้องกันการทุจริต รักษาประโยชน์ทางราชการ และรักษาศักดิ์ศรีของข้าราชการกระทรวงมหาดไทยอีกทางหนึ่งด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.