นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ในฐานะผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงสำโรง-ลาดพร้าว เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท Alstom ผู้ผลิตรถไฟฟ้า ยังคงตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะล้อประคองของรถทุกขบวนก่อนที่จะออกให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ ตลอดจนผู้ใช้รถใช้ถนนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.67 บริษัท อัลสตอมฯ จะเริ่มทยอยเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ชุดล้อประคองใหม่ทั้งชุดในขบวนรถทั้ง 30 ขบวน คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะจึงจะแล้วเสร็จ สำหรับปริมาณผู้โดยสารสายสีเหลืองนั้น ยังคงทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นคนต่อวันเท่ากับช่วงก่อนเกิดเหตุล้อประคองหลุดร่วงจากขบวนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง แต่น้อยกว่าช่วงที่เปิดให้บริการฟรี

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการซ่อมแซมรางนำไฟฟ้าภายหลังจากเกิดเหตุร่วงหล่นลงบนถนน โดยตัวยึดมาครบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงรางนำไฟฟ้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศทางเรือ คาดว่าจะถึงประเทศไทยกลางเดือน ม.ค.นี้ และจะใช้เวลาดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จไม่เกินสิ้นเดือน ม.ค.นี้ ทั้งนี้ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการปกติ 26 สถานี ส่วนอีก 4 สถานียังเดินรถทางเดียว โดยยังคงเก็บค่าโดยสารในอัตราลด 15% เริ่มที่ 13-38 บาท เมื่อซ่อมแซมแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการปกติจะกลับมาค่าโดยสารในอัตรา 15-45 บาท ซึ่งขณะนี้ภายหลังจากเริ่มเปิดบริการแบบเก็บเงิน ผู้โดยสารสายสีชมพูดลดลงเล็กน้อย โดยปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่นคนต่อวัน น้อยกว่าช่วงที่เปิดให้บริการฟรี

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่เริ่มเก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ม.ค.67 นั้น ผู้โดยสารยังมาใช้บริการตามปกติ ลดลงเล็กน้อย ไม่มีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลนั้น ทางบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ยังคงยืนยันว่ายินดีเจรจากับกระทรวงคมนาคม แต่ปัจจุบันยังไม่มีการติดต่อจากกระทรวงคมนาคมในการหารือประเด็นดังกล่าว

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า หลังจากเริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 15 บาทตลอดสาย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ม.ค.67 ปรากฏว่าผู้โดยสารในส่วนต่อขยายที่ 2 ลดลงประมาณ 20% โดยช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ก่อนเก็บค่าโดยสาร ผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 2.6 แสนคนต่อวัน แต่หลังจากเก็บค่าโดยสาร ผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 2 แสนคนต่อวัน ขณะที่ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ก่อนเก็บค่าโดยสารผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นคน หลังเก็บค่าโดยสาร ผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 7-8 หมื่นคนต่อวัน.