เมื่อวันที่ 15 ม.ค. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีการเสียชีวิตของน้องโยโกะ พริตตี้สาว ซึ่งเสียชีวิตในห้องคอนโดฯ ย่านเอกมัย เมื่อ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งทางครอบครัวยังคงติดใจ คาใจ สงสัยในสาเหตุการเสียชีวิต ไม่ปักใจเชื่อว่าน้องโยโกะ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยไซยาไนด์
คุณแม่ของโยโกะ บอกว่า ย้อนกลับไปในวันทราบข่าวว่าน้องเสียชีวิต คือหลานชื่อกู๊ด โทรฯ มาหาแม่ บอกว่าโยโกะปลุกไม่ตื่น เป็นอะไรไม่รู้ หลานเอาแต่ร้องไห้ จับใจความได้ว่า แฟนหนุ่มของโยโกะ ติดต่อมาหากู๊ดผ่านไอจี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน บอกว่าติดต่อโยโกะไม่ได้ ขอให้กู๊ดช่วยไปดูโยโกะที่ห้องได้ไหม โดยให้ติดต่อนิติน ของคอนโดฯ แล้วใช้รหัสเปิดห้อง ซึ่งแฟนของโยโกะบอกรหัสห้องกับกู๊ดไป ต่อมาไปพบว่าโยโกะนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง ในสภาพผ้าห่มเรียบร้อย นอนนิ่งเหมือนถูกจัดแจงไว้อย่างดี ตอนที่แฟนหนุ่มเข้ามาพบ

กรณีของภาพในกล้องวงจรปิด มันมีความแตกต่างกัน คือเรื่องเวลาในกล้องวงจรปิด ที่เห็นว่าน้องโยโกะถึงโรงแรม และเข้ามากดเปิดลิฟต์ในช่วงเช้าของวันที่ 31 ตุลาคม 2566 เวลา 06.43 น. แต่ต่อมาปรากฏภาพน้องโยโกะอีกครั้งตอนเวลา 07.20 น. เดินอยู่ชั้น 6 ที่น้องโยโกะอยู่หรือไม่ แต่ทั้งๆ ที่น่าจะถึงห้องภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที เวลาในกล้องปรากฏว่ากลับทิ้งห่างถึง 33 นาทีเลย จึงเป็นข้อสงสัยว่าเวลาคลาดเคลื่อน หรือมีภาพบางภาพหายไปหรือไม่นั้น
นอกจากนี้ ก็มีภาพว่าแฟนของโยโกะ นั่งอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม ในคืนวันที่ 31 ต.ค. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 1 พ.ย. 66 เห็นแฟนของโยโกะมานั่งรอที่ล็อบบี้เวลาประมาณตี 3 ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น กล้องวงจรปิดชั้น 6 หน้าห้องของโยโกะ มีความผิดปกติ คือ มีภาพตอนเที่ยงคืน แล้วภาพก็ตัดโดดไปตี 2 แล้วตัดไปโดดไปตี 3 แต่หลังจาก 03.43 น. เวลามันก็เดินปกติ ทำให้เกิดความสงสัยว่า มันมีการตัดต่อคลิปกล้องวงจรปิดหน้าห้องโยโกะหรือไม่
ขณะเดียวกัน ภาพของแฟนหนุ่มที่มานั่งรอที่ล็อบบี้ ช่วงตีสาม ก็ยิ่งทำให้แปลกใจว่า ในเมื่อมาถึงคอนโดฯ แล้ว ทำไมถึงไม่ขึ้นไปบนห้อง มานั่งอยู่ทำไมข้างล่าง ทั้งที่ตัวเขาก็ขึ้นไปที่ห้องของโยโกะได้ เขามีรหัสเปิดห้อง เพราะตัวเขาเป็นคนบอกหลานกู๊ดเองว่าห้องโยโกะรหัสอะไร
แม่และเพื่อนบอกว่าไม่ทราบเลยว่า น้องเคยมีประวัติพยายามจบชีวิตตัวเองมาก่อน เท่าที่ทราบก็คือรู้ว่าน้องทานยานอนหลับเยอะเกินขนาด ส่วนคุณเอบอกว่า โยโกะมีประวัติซึมเศร้าจริง แต่เป็นแค่ระยะเริ่มต้น มีภาวะเครียด แต่ไม่เคยทราบว่าเขาพยายามจบชีวิตตัวเอง

นอกจากนี้ ระเบียงห้องของโยโกะ เปิดประตูออกระเบียงไป ก็สามารถปีนข้ามระเบียงเตี้ยๆ เพื่อออกไปสระว่ายน้ำ (พื้นที่ส่วนกลาง) ได้เลย หรือคนภายนอกเดินมาจากสระว่ายน้ำ ก็สามารถปีนข้ามเข้ามาที่ระเบียงห้องโยโกะได้เช่นกัน ส่วนประตูระเบียงห้องของโยโกะ จริงๆ ก็ควรจะต้องล็อกไว้ตลอดเวลา แต่ในวันที่ไปพบศพ เจอว่าประตูหลังห้องบานดังกล่าว ไม่ได้ล็อก ทั้งที่จริง โยโกะซึ่งเป็นคนรอบคอบมากๆ จะต้องล็อกไว้แน่ๆ
ส่วนกล้องวงจรปิดตรงทางเดินสระน้ำ ก็มีแค่ภาพช่วงกลางวัน ตอนกลางคืนไม่มีไฟล์ให้ ซึ่งภาพที่ได้มา ตอน 06.37 น. ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่นาทีก่อนที่โยโกะจะหลับห้องมา พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวตรงทางเดินริมสระว่ายน้ำ เดินถือถุงแปลกๆ แล้วลับหายไปตรงมุมอับ ขาไปไม่ได้ใส่แมสก์ แต่ขาเดินกลับมาใส่แมสก์ และกลับมามือเปล่า ถุงในมือหายไป
ความผิดปกติอีกประการ คือคำให้การของแฟนโยโกะ ที่บอกว่าที่ไปนั่งรอที่ล็อบบี้ บอกว่าติดต่อโยโกะไม่ได้ โทรฯ หาโยโกะก็ไม่รับ ปรากฏว่าแม่ได้ยินแบบนั้นก็เปิดดูประวัติการโทรฯ เข้า-โทรฯ ออกทันที ไม่เจอว่ามีการโทรฯ เข้ามาเลย ทั้งมือถือ ทั้งในไลน์ เขาพูดไม่ตรงกับหลักฐานที่แม่เปิดดู

ขณะที่รองแต้มบอกว่า จากผลการผ่าชันสูตร ก็พบว่าพบสารไซยาไนด์ในร่างกาย ก่อนไปพบขวดไซยาไนด์เก็บไว้ในตู้เซฟของน้อง ต้องรอผลการตรวจยืนยันว่า ไซยาไนด์ที่พบในร่างกายเป็นตัวเดียวกับในขวดไหม และถ้าเป็นตัวเดียวกัน ก็ต้องดูว่าใครเปิดตู้เซฟได้บ้าง หรือมีแค่น้องเองคนเดียว
รองแต้มยังบอกอีกว่า มีประวัติการรักษาของน้องโยโกะ ว่าเคยมีประวัติพยายามทำร้ายตัวเองจนเข้ารับการรักษามาแล้วหลายครั้ง ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง
ขณะที่หมอหมูบอกว่า ในผลการผ่าชันสูตรยังพบตัวยา โคลนาซีแพม หรือยากันชักและรักษาโรคตื่นตระหนก ซึ่งก็ต้องมาหาข้อเท็จจริงกันต่อไปว่า ยาตัวนี้น้องทานอยู่แล้ว และเชื่อมโยงอย่างไรต่อการเสียชีวิตหรือไม่ ส่วนการได้รับพิษไซยาไนด์ อาการที่เกิดขึ้นจะมีอาการปวดศีรษะ อาเจียน ชักเกร็ง หัวใจเต้นผิดจังหวะ จนถึงหยุดเต้น และเสียชีวิต เผอิญว่าพอพบตัวยาโคลนาซีแพมด้วย ทำให้น่าสงสัยว่า เป็นยาทำให้การชักเกร็งน้อยลงด้วยหรือไม่ อันนี้ต้องให้ทางผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบอย่างละเอียด
ต่อมาแม่ได้เปิดหลักฐานสำคัญ เป็นหลักฐานที่แม่ถ่ายจากหน้าจอโทรศัพท์ของโยโกะ หน้าจอไลน์ที่โยโกะคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีการส่งคลิปลับ ขณะที่โยโกะมีสัมพันธ์กับผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในไลน์
อีกทั้งยังมีข้อความยาวเหยียดที่เป็นข้อตกลง ซึ่งผู้ชายคนหนึ่งเสนอให้โยโกะว่า “ถ้าพี่จะให้โอกาสโยโกะอีกครั้ง ต้องทำดังต่อไปนี้” โดยมีหลากหลายข้อกำหนดที่โยโกะต้องทำตาม เยอะแยะไปหมด และฝ่ายชายยังทิ้งท้ายว่า จะไม่ไว้ใจโยโกะไปอีกตลอดชีวิต เพราะตอนนี้ โยโกะกลายเป็นคนขี้โกหกไปแล้ว
ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่ เพราะจากความสงสัยว่า เป็นการฆาตกรรมอำพราง ก็อาจจะเป็นเรื่องของการกดดัน ไล่บี้ให้โยโกะเครียดจนก่อเหตุจบชีวิตตัวเองหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีข้อความเหมือนเป็นจดหมายทิ้งท้าย ที่โยโกะเขียนถึงผู้ชายคนหนึ่ง ที่เรียกแทนคนๆ นั้นว่า “แดดดี้” โดยข้อความเป็นลักษณะการสั่งเสีย เขียนว่า

แดดดี้ หนูขอให้แดดดี้รู้สิ่งที่สำคัญที่สุดนี้เอาไว้นะคะ “หนูรักแดดดี้มากๆ หนูรักแดดดี้ที่สุดในชีวิต และหัวใจของหนูเลย”
หนูขอโทษนะคะที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างแดดดี้อีกต่อไปแล้ว ได้ได้ทำอะไรอีกหลายๆ อย่างด้วยกัน ไม่ได้รอดูแดดดี้ฟันสวยเลย หนูขอโทษที่หนูสู้กับตัวเองไม่ไหวอีกแล้ว
ดีใจมากๆ นะคะที่เคยได้ยินคำๆ นี้ หนูเสียดาย และเสียใจนะ ที่เราเจอกันช้าไป 10 ปี รอบหน้าหนูจะไม่ช้าแล้วนะคะ
หนูเลิกกับแดดดี้ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ นี่คงเป็นทางเดียวที่จะทำให้แดดดี้มีความสุขขึ้นได้ โดยไม่มีอดีตของหนู เป็นเรื่องฉุดรั้งความสุขของแดดดี้ไว้นะคะ หนูขออวยพรให้แดดดี้ เลิกการพนันได้นะคะ หนูรักแดดดี้มากๆ รักที่สุดนะคะ
ข้อความนี้มีความเป็นไปได้สูงว่านี่คือสาเหตุหลักของการเสียชีวิต อาจจะเป็นการถูกกดดัน หรือถูกทำให้เครียดมาก ถึงขั้นลงมืออัตวินิบาตกรรมตัวเอง ซึ่งในเรื่องนี้ รองแต้มบอกกับแม่ของน้องโยโกะว่า ให้นำหลักฐานทั้งหมดไปมอบให้ทางตำรวจ เพื่อขยายผลต่อไป
ขอบคุณข้อมูล เพจโหนกระแส