สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศปากีสถานออกแถลงการณ์ ว่ากองทัพปากีสถานปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ “ต่อเป้าหมายแบบจำเพาะเจาะจง” ในจังหวัดซีสถานและบาโลชิสถาน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน เมื่อช่วงรุ่งสางของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น และสามารถคร่าชีวิต “ผู้ก่อการร้ายจำนวนหนึ่ง”


ขณะที่สำนักข่าวแห่งชาติของอิหร่านรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย แบ่งเป็นผู้หญิง 3 ราย และเด็ก 4 ราย จากการโจมตีดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ในพื้นที่หลายแห่งของจังหวัดซีสถานและบาโลชิสถาน


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังรัฐบาลปากีสถานเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำกรุงเตหะราน ให้เดินทางกลับ และไม่อนุญาตให้เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำกรุงอิสลามาบัด ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างเดินทางกลับไปปฏิบัติภารกิจที่อิหร่าน เดินทางเข้าประเทศอีกครั้ง เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารของอีกฝ่าย ที่เป็นการโจมตีทางอากาศ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา “โดยเป็นการละเมิดน่านฟ้าอย่างไม่สมเหตุสมผล” และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย เป็นเด็กทั้งคู่


ขณะที่รัฐบาลเตหะราน กองทัพอิหร่าน และกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของอิหร่านรายงานว่า ปฏิบัติการโจมตีที่เกิดขึ้นมีเป้าหมาย คือ สำนักงานใหญ่ของกองกำลังจาอิช อัล-อัดล์ ในปากีสถาน ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2555 และรัฐบาลเตหะรานขึ้นบัญชีดำเป็นกลุ่มก่อการร้าย โดยจาอิช อัล-อัดล์ มีฐานที่มั่นอยู่ตามแนวพรมแดนระหว่างปากีสถานกับอิหร่าน


ด้านนายฮอสเซ็น เอเมียร์-อับโดลลาเฮียน รมว.การต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า ไออาร์จีซีโจมตีเป้าหมายในปากีสถานจริง แต่ยืนยันว่า พุ่งเป้าโจมตีเฉพาะสถานที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มจาอิช อัล-อัดล์ และ “ไม่มีประชาชนคนใดในปากีสถานได้รับผลกระทบ” อนึ่ง กองกำลังจาอิช อัล-อัดล์ รับสมอ้าง เป็นผู้ก่อเหตุระเบิดโจมตีสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ในภาคใต้ของอิหร่าน เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว และคร่าชีวิตเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 11 นาย.

เครดิตภาพ : AFP