สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 20 ม.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้า หลังองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) รายงานว่า ขีปนาวุธต้องสงสัยเป็นของกองทัพอิสราเอล ทำลายอาคารพาณิชย์ความสูง 4 ชั้น ในย่านมาสเซห์ ของกรุงดามัสกัส เมื่อวันเสาร์ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 รายนั้น


สื่อท้องถิ่นของอิหร่านรายงานเพิ่มเติม ว่า ผู้เสียชีวิตรวมถึง หัวหน้าหน่วยข่าวกรองประจำซีเรีย ของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ผู้ช่วย 2 นาย และเจ้าหน้าที่ไออาร์จีซีอีกสองนาย ขณะที่ไออาร์จีซีออกแถลงการณ์ มีเนื้อหาเพียงว่า สูญเสียกำลังพล 4 นาย จากการโจมตีของอิสราเอลต่อเป้าหมายในซีเรียครั้งนี้ ด้านกองทัพอิสราเอลยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ


แม้เป็นที่ทราบกันดีว่า อิสราเอลปฏิบัติการทางทหารข้ามเขตแดนในซีเรีย ตั้งแต่สงครามกลางเมืองในซีเรียเปิดฉาก เมื่อเดือน มี.ค. 2554 อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวทางทหารของอิสราเอลเกี่ยวกับซีเรียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังสงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ซึ่งรวมถึง การโจมตีในเขตชานกรุงดามัสกัส เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว สังหาร พล.จ.ราซี มูสซาวี หนึ่งในผู้บัญชาการอาวุโสของกองกำลังคุดส์ ที่เป็นกองกำลังต่างชาติ สังกัดไออาร์จีซี


อนึ่ง พล.จ.มูสซาวี ถือเป็นทหารอาวุโสสูงสุดของไออาร์จีซีนายแรกในรอบเกือบ 4 ปี ซึ่งเสียชีวิตในต่างประเทศ นับตั้งแต่กองทัพสหรัฐสังหาร พล.ท.กัสเซ็ม สุไลมานี ที่กรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก เมื่อปี 2563


นอกจากนั้น หลายฝ่ายยังเชื่อมั่นว่า กองทัพอิสราเอลเป็นผู้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ “ระลอกใหญ่” ทำลายเป้าหมายหลายแห่ง ตามแนวพรมแดนระหว่างอิรัก กับภาคตะวันออกของซีเรีย เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาด้วย ส่งผลให้ “นักรบกองกำลังฝ่ายนิยมอิหร่าน” เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย มีทั้งที่เป็นชาวซีเรีย ชาวอิรัก ชาวอิหร่าน และสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์.

เครดิตภาพ : AFP