กลุ่มแฟนบอลที่จุดพลุแฟลร์ที่ราชมังคลากีฬาสถาน จากเกมฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2016 รับสารภาพในชั้นศาลเรียบร้อยแล้วว่าได้กระทำการจริง

เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นกว่า 7 ปีที่แล้ว ในวันที่ 17 ธ.ค. 2559 ในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2016 รอบชิงชนะเลิศ ที่ทีมชาติไทย ชนะ อินโดนีเซีย 2-0 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เหตุดังกล่าวทำให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถูกสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ปรับเงิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 1,076,790 บาท)

พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.หัวหมาก ได้ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากับ “กีฬาเดลินิวส์” ระบุว่า ถึงตอนนี้คดีไปอยู่ในชั้นศาล ซึ่งกลุ่มแฟนบอลที่เป็นผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพในชั้นศาลหมดทุกคนแล้ว โดยทยอยให้การรับสารภาพ กระทั่งต้นเดือน ธ.ค. 66 ผู้ต้องหาชุดสุดท้ายก็สารภาพแล้ว ศาลจะใช้ประกอบการพิพากษาลงโทษต่อไป

ขณะเดียวกัน เมื่อศาลพิพากษาโทษแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในลำดับต่อไป

สำหรับคดีแฟนบอลจุดพลุในสนามฟุตบอล สร้างความเสียหายต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อย่างต่อเนื่อง โดนปรับจากกรณีดังกล่าว จนหวาดเสียวว่าจะส่งผลถึงการโดนแบน นอกจากเคสที่ราชมังคลากีฬาสถานแล้ว ยังมีเหตุที่ ม.ธรรมศาสตร์รังสิต, บีจี สเตเดี้ยม และจากฟุตบอลชายหาดเอเชีย ที่พัทยา.