กรณี นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ แถลงผลการตรวจสอบคลิปสิงโตอยู่ในรถหรูเบนท์ลีย์เปิดประทุนขับไปตามถนนในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ส่งผลให้ชาวบ้าน นักท่องเที่ยวและคนใช้รถใช้ถนนต่างตกใจ จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการนำสัตว์ดุร้ายมาเลี้ยง และนำมายังแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเกรงว่าจะเกิดอันตรายนั้น ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

อุทยานฯ แจงชัดดำเนินคดีเฉียบปมพาสิงโตนั่งเบนท์ลีย์เปิดประทุนอวดโฉมเมืองชลบุรี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผอ.กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส กรมอุทยานฯ กล่าวว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับ 3 ผู้กระทำผิด ส่วนลูกสิงโตยังคงอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อให้ผู้ที่มีความคุ้นเคยได้ดูแลลูกสิงโตตัวนี้ไปก่อน ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอพนักงานสอบสวนดำเนินคดีให้เรียบร้อย ส่วนเรื่องเอกสารการโอนนั้นก็เสมือนไม่มีผลอะไรแล้ว เพราะผู้รับโอนตกเป็นผู้ต้องหา ไม่มีคุณสมบัติที่จะครอบครองสัตว์ป่าได้ ดังนั้นสุดท้ายแล้วลูกสิงโตจะถูกส่งกลับไปยังฟาร์ม

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า สิงโตเป็นสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง ชนิด ก (ดุร้าย) ดังนั้นต้องดูแลรักษาในสถานที่ครอบครองแข็งแรงปลอดภัย ไม่สร้างความหวาดกลัวให้ผู้อื่น ทั้งนี้ในปัจจุบัน (23 ม.ค.67) มีผู้แจ้งครอบครองสิงโตรวมทั้งสิ้น 38 ราย 224 ตัวทั่วประเทศ ซึ่งกรมอุทยานฯ จะเร่งตรวจสอบผู้ครอบครองทั้งหมดว่าเลี้ยงดูแลรักษาสิงโตให้อยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยแข็งแรงหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าวซ้ำขึ้นอีก